“เพราะกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในทุกวัน คือ การกินกบตัวนั้นซะ!!”
คำพูดที่ราวกับเรื่องบ้าบอสุดพิลึกเช่นนี้ มาจากหนึ่งในหนังสือแนวพัฒนาตนเองชื่อดัง Eat That Frog ผลงานเขียนโดยไบรอัน เทรซี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารและจัดการเวลา เขาได้เปรียบเทียบ “กบ” กับ “งาน” ไว้ได้อย่างน่าสนใจจนนักอ่านทั่วโลกต่างต้องสะดุดใจไปกับความคิดของเขา ผมได้สรุปใจความสำคัญจากหนังสือเล่มนี้เป็นกฎง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น มาให้แล้ว
เมื่ออ่านบทความนี้จนจบแล้ว คุณจะได้เรียนรู้ถึง
- เทคนิคการจัดการเวลาที่จะช่วยให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งส่วนตัวและการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- วิธีการจัดลำดับความสำคัญของงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- วิธีการนำเทคนิคเหล่านี้มาปรับใช้จนมันกลายเป็นนิสัยที่ดีของเราไปตลอดชีวิต
จงเติมกบลงไปบนขนมปังปิ้งมือเช้าของคุณเสียดีๆ
คงเป็นเรื่องแย่น่าดูถ้าในมื้อเช้าของคุณต้องกินกบเข้าไปสักตัว ยิ่งพอคุณไปถึงที่ทำงานยังพบกบอยู่บนโต๊ะอีก! มันอาจกลายเป็นการเริ่มวันที่แย่เสียเหลือเกิน ทว่าในโลกแห่งความจริง กบตัวนั้นคือ งานชิ้นสำคัญของคุณ ซึ่งคุณควรจะได้เรียนรู้วิธีทานมันอย่างชาญฉลาด
เชื่อเราเถอะว่า เมื่อคุณยอมกินกบตั้งแต่แรก มันจะมีประโยชน์ตามมาอีกมากทีเดียว
แม้ในความเป็นจริง คุณไม่จำเป็นต้องกินกบเพื่อจะประสบความสำเร็จในการงาน สิ่งสำคัญคือ คุณต้องจัดการกับปัญหาต่างๆ อย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ นี่คือความจริงที่แสนจะเรียบง่าย ซึ่งการพุ่งเป้าความสนใจไปยังงานชิ้นที่สำคัญที่สุดถือเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จที่จะตามมา ถ้าคุณขาดความชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายเมื่อไหร่ งานของคุณจะเกิดปัญหาตามมาทันที
ทุกคนอาจเคยรู้สึกจมอยู่งานที่ทำมากเกินไปและคิดว่า “ฉันจะมีเวลามากพอทำงานพวกนี้ให้เสร็จได้ยังไงกัน” แต่ความท้าทายของมันอยู่ที่การชี้เป้าไปยังกบตัวเขื่องที่นอนรออยู่ให้ได้ คนที่จะประสบความสำเร็จจะเริ่มทำงานและเผชิญหน้ากับภารกิจต่างๆ อย่างไม่ลังเล เพราะเมื่อใดที่เราขาดความชัดเจน มันอาจเป็นตัวพิฆาตความสำเร็จของเราก็ได้
มีคำกล่าวที่ว่า ความสำเร็จประมาณ 95% ของชีวิตขึ้นอยู่กับนิสัยของตัวคุณ นิสัยที่ดีจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ แต่นิสัยที่แย่จะเป็นศัตรูของคุณแทน เมื่อคุณรู้แบบนี้ คำถามที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ “เอ…แล้วฉันจะพัฒนานิสัยเหล่านี้ได้อย่างไรกัน?” งั้นเรามาลองอ่านวิธีการที่น่าสนใจเหล่านี้ไปพร้อมๆ กันเลย
หัดเอาชนะให้เป็นนิสัย
คุณต้องมี 3 คุณสมบัติสำคัญเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ คือ
- คุณต้องรู้จักเลือก
- คุณต้องมีระเบียบวินัย
- คุณต้องมุ่งมั่นตั้งใจ
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ได้รู้ว่ามีผู้คนราว 3% เท่านั้นที่จะใส่ใจในเป้าหมายที่พวกเขาเขียนลงกระดาษเอาไว้ ในความจริงแล้ว การวางแผนงานบนกระดาษเป็นนิสัยที่สำคัญมากที่จะช่วยจัดการงานต่างๆ ของคุณ เทคนิคง่ายๆ เพียง
- ตัดสินใจเลือกในสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด
- เขียนเป้าหมายนี้ลงไป
- กำหนดเส้นตาย และวางแผนบรรลุเป้าหมายเอาไว้
- ระบุรายการสิ่งที่คุณจะต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
- เปลี่ยนรายการต่างๆ ให้เป็นแผนงาน โดยจัดระเบียบลำดับและความสำคัญของมัน
- ดำเนินการทันที อย่าลังเลใจ
- สัญญากับตัวเองว่าจะทำงานไปที่ละขั้นตามเป้าหมายในแต่ละวัน
ขั้นตอนต่อจากนี้ส่วนมากคือ คุณต้องผลักดันงานไปข้างหน้าจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ การลงมือทำทันทีย่อมดีกว่าการผลัดวันประกันพรุ่ง ถ้าคุณทำงานโดยไม่วางแผน มันจะนำพาคุณไปสู่ความล้มเหลวและผิดหวังในที่สุด ดังนั้นคุณควรเรียนรู้ที่จะวางแผนต่างๆ ในทุกวัน
คุณต้องหมั่นทำงานจากรายการที่ตั้งไว้เสมอ คุณอาจลองเขียนรายการงานต่างๆ ของคุณในตอนกลางคืนเพื่อให้จิตใต้สำนึกของคุณทำงานไปด้วยตลอดทั้งคืนแม้ในขณะที่คุณหลับ คุณควรสร้างรายการที่แตกต่างกันสำหรับวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน สร้างรายการหลัก และสร้างรายการล่วงหน้าสำหรับเดือนหน้าก่อนถึงช่วงสิ้นเดือน ทำรายการล่วงหน้าสำหรับงานในรายสัปดาห์และที่สำคัญคือ คุณต้องมีรายการแบบรายวันด้วย
อย่าลืมว่า กฎ 10/90 เป็นเรื่องจริงที่ใช้ได้เสมอ เพราะการลงทุนกับเวลาเพื่อวางแผนงานต่างๆ ก่อนเริ่มงานเพียง 10% จะช่วยให้คุณสามารถใช้เวลาอีก 90% ที่เหลือในทำงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
การจัดการเวลาโดยใช้กฎของพาเรโต
นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังชาวอิตาเลียนอย่าง วิลเฟรโด พาเรโต ได้ค้นพบความจริงข้อหนึ่งว่ามีผู้คนเพียง 20% สร้างเงินและรายได้มากถึง 80% ในขณะที่คนอีกกว่า 80% มีเงินและรายได้น้อยเหลือเกิน เขาค้นพบว่าอัตราส่วนนี้ใช้ได้กับกิจกรรมต่างๆ ในทางเศรษฐศาสตร์ได้ทั้งหมด การงานสำคัญของคุณ 20% จะสร้างรายได้กลับได้ถึง 80% ของคุณ และลูกค้าเพียง 20% ของคุณจะสร้างยอดขายให้คุณได้มากถึง 80% ความจริงที่แพร่หลายนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม กฎของพาเรโต
จากกฎของพาเรโตนี้เองหมายความว่า ถ้าคุณมีรายการงานที่ต้องทำ 10 อย่าง จะมีเพียง 2 รายการเท่านั้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาให้คุณได้มากถึง 80% ปัญหาที่สำคัญที่สุดอยู่ตรงที่ เมื่อใดก็ตามที่ดูรายการงานต่างๆ คุณจะถูกล่อลวงให้ไปทำงานเล็กๆ น้อยๆ ให้แล้วเสร็จ ก่อนจะรู้สึกไปเองว่า “ดีจังเลย เราเคลียร์งานไปเรียบร้อยแล้ว” ทว่านั่นคือกับดัก เพราะคุณกำลังทำงานที่ไม่มีความสำคัญเสร็จไปต่างหาก
จงจำเอาไว้ว่าส่วนที่ยากที่สุดของงานใดๆ ก็คือ การเริ่มต้น การจัดการกับเวลาเป็นเพียงการควบคุมลำดับของเหตุการณ์ต่างๆ เท่านั้น แต่คนที่มีวินัยในการจัดการกับงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ คือ คนที่มีวินัยในการกินกบตัวนั้น
การวางแผนระยะยาว
หนทางสู่ความสำเร็จอยู่ที่การคิดวางแผนในระยะยาว ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นโครงการอะไรสักอย่างให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ถ้าเราไม่ทำงานนี้จะเกิดผลอะไรขึ้นบ้างนะ?” ถ้าคุณยินดีที่จะระงับความพึงพอใจในระยะสั้นเพื่อแลกกับผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวแล้ว ให้คุณกลับมาพิจารณาแผนเสียใหม่
เดนนิส ไวทลีย์ นักพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจได้กล่าวเอาไว้ว่า
“คนที่ล้มเหลวจะทำสิ่งที่ช่วยให้เขารู้สึกบรรเทาความตึงเครียดไปได้บ้าง แต่ผู้ชนะกลับมุ่งทำงานที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายของตนเองได้”
จงจำเอาไว้ว่า ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องให้แรงจูงใจในการเลือกสิ่งที่คุณลงมือทำ
ABCs ลำดับไปสู่ความสำเร็จ
ถ้าหนทางไปสู่ความสำเร็จเป็นสูตรง่ายๆ แค่ ABC คงจะดีไม่ใช่น้อย ทว่าในความเป็นจริง คุณจำเป็นต้องเพิ่ม D และ E ลงไปด้วย ซึ่งการใช้วิธี ABCDE อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อลำดับความสำคัญของงานประจำวัน คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- ทำรายการงานของคุณ
- วาง A, B, C, D หรือ E ก่อนแต่ละรายการในรายการนั้น
- กรอกรายละเอียดและข้อมูลงานต่างๆ ตามลำดับตัวอักษร
งาน A คือ งานที่คุณต้องลงมือทำโดยเร็วที่สุด ถ้าคุณไม่อยากเผชิญหน้ากับเรื่องร้ายแรงที่ตามมา
งาน B คือ งานที่คุณควรทำ และมีผลกระทบตามมาเล็กน้อย
งาน C คือ งานที่น่าจะทำ และไม่มีผลกระทบต่องานใดๆ
งาน D คือ งานที่คุณสามารถมอบหมายให้ผู้อื่นจัดการแทนได้ ดังนั้นเป้าหมายคือ คุณต้องมอบหมายงาน D ให้ผู้อื่นเพื่อให้คุณมีเวลาว่างสำหรับงานที่คุณต้องลงมือทำเอง
งาน E คือ งานที่คุณสามารถกำจัดทิ้งได้เลย มันอาจจะเคยเป็นงานที่สำคัญแต่ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว
คุณอาจมีงาน A มากกว่า 1 งานก็ไม่เป็นไร ให้คุณลองเรียงลำดับความสำคัญออกเป็น A-1, A-2, A-3 เป็นต้น หมั่นฝึกฝนการใช้วิธี ABCDE ในทุกๆ วัน แล้วคุณจะประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในการทำงานของคุณ
ผลลัพธ์สำคัญของการทำงาน
การจะทำงานใดๆ ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด อาจเริ่มต้นจากคำถามง่ายๆ ว่า “เพราะอะไรคุณยังได้รับเงินเดือนอยู่เสมอ?” คนส่วนมากอาจไม่แน่ใจในคำตอบนี้ แต่เหตุผลที่คุณยังได้รับการว่าจ้างอยู่เป็นเพราะผลลัพธ์ในการทำงานของคุณนั่นเอง ถ้าคุณอยากปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น คุณต้องรู้จักหน้าที่สำคัญในงานของคุณให้ดี ยกตัวอย่างเช่น พนักงานขายคนหนึ่งขององค์กรทั่วไป การทำงานที่ยอดเยี่ยมของเขาเป็นอย่างไรบ้าง?
- เก่งด้านการสำรวจตลาด
- มีการนำเสนอที่น่าสนใจ
- ความสามารถในปิดการขาย
- บริการการขาย
- หน้าที่อื่นๆ และงานเอกสารต่างๆ
เมื่อคุณระบุผลลัพธ์สำคัญในการทำงาน คุณจะตรวจสอบได้ว่า คุณได้จัดสรรทุกอย่างให้เหมาะสมแล้วหรือไม่ จากนั้นลองให้คะแนนของตนเองออกมา แล้วคุณจะพบจุดที่อ่อนแอที่สุดในงานของคุณ คุณสามารถปรับปรุงจุดอ่อนส่วนนี้ด้วยการตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้งว่า “ทักษะใดบ้างที่สามารถปรับปรุงได้ และมันจะส่งผลดีต่อการทำงานมากที่สุด” ไม่ว่าจะเป็น เรียนรู้โปรแกรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น หรือพัฒนาทักษะทางภาษาใหม่ๆ เพราะทักษะทางธุรกิจสามารถเรียนรู้ได้ เพียงแค่คุณกำหนดเป้าหมายและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า
เข้มงวดในการบังคับตัวเองให้ได้
ไม่มีใครชื่นชอบการถูกบังคับ แต่คุณต้องอย่าลืมความจริงที่ว่า คุณไม่สามารถจะมีเวลาเพียงพอต่อการทำงานทุกอย่างที่คุณต้องการได้ ดังนั้นถ้าคุณอยากรับมือกับเรื่องปวดหัวนี้ คุณควรเริ่มจากการหาคำตอบของคำถามเหล่านี้
- กิจกรรมที่มีมูลค่าสูงสุดของฉันคืออะไร?
- อะไรคือสิ่งที่มีแต่ฉันที่ทำได้และถ้าได้ลงมือทำจะเกิดผลดีตามมามากมาย?
- ในตอนนี้ อะไรคือเรื่องที่ฉันใช้เวลาไปมากที่สุดและดีที่สุด?
ผมคิดว่า คำตอบที่ได้จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการเวลาได้ดียิ่งขึ้นแน่นอนครับ
การระบุข้อจำกัดสำคัญของคุณ
ถ้าคุณมีเป้าหมายและมันยังไม่ประสบความสำเร็จ คำถามที่เตามมาคือ อะไรเป็นสิ่งที่ดึงคุณเอาไว้?
เมื่อคุณหาคำตอบเจอ มันจะเป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้
ถ้าเราอ้างอิงตามกฎของพาเรโต จะพบว่า 80% ของปัญหาจะเกิดจาก 20% ของอุปสรรคที่กำลังเผชิญ เมื่อคุณรู้เช่นนี้ก็ไม่ควรเสียเวลาไปกับการโทษเหตุผลร้อยแปด แต่คุณควรตั้งเป้าหมายว่าคุณจะปรับปรุงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- หัดเป็นคนมองโลกในแง่ดี
- หมั่นพูดคุยกับตัวเองในเชิงบวก เช่น ฉันมั่นใจ ฉันแข็งแรง ฯลฯ
- แก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยทัศนคติที่ดี เพราะปัญหาไม่ได้มีไว้เพื่อขัดขวางเรา แต่มีไว้เพื่อชี้แนะแนวทางให้เรา
- จินตนาการถึงเป้าหมายสำคัญของคุณ
การกินกบตัวนั้นจึงหมายถึงการมีทัศนคติที่ดีและมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยากที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก เพราะสัจธรรมก็คือ คุณไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามใจชอบหรือจะผลัดวันประกันพรุ่งได้ตลอดไป ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน จงเรียนรู้ที่จะกินกบตัวนั้นซะในทุกวันตั้งแต่ตอนนี้
สรุปข้อคิดที่น่าสนใจจากหนังสือ Eat That Frog
- การเปลี่ยนวิธีทำงานเสียใหม่จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมชีวิตของตัวเองได้
- การลงมือทำ คือ หัวใจสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย
- คนที่ทำสิ่งแตกต่างได้ดีกว่าใครๆ เป็นเพราะพวกเขาทำในสิ่งที่ถูกต้องและถูกเวลา
- การกินกบตัวนั้นซะ หมายถึง การระบุงานที่สำคัญที่สุดของคุณและมุ่งหน้าทำมันอย่างตั้งใจจนกว่างานชิ้นนั้นจะแล้วเสร็จ
- เริ่มต้นลงมือในงานที่สำคัญที่สุดของคุณก่อนเป็นอันดับแรก
- ความสามารถในการพุ่งความสนใจไปที่งานที่สำคัญที่สุดของคุณจะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในอนาคต
- ผู้คนมากมายประสบความล้มเหลวเพราะพวกเขาไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายของตน
- กฎเหล็กของความสำเร็จคือ การขบคิดให้แตกและเขียนเป้าหมายนั้นลงบนกระดาษซะ
- ในทุกคืน ให้ลิสต์รายการงานต่างๆ ที่ต้องทำในวันถัดๆ ไป โดยมีลิสต์รายการหลักแบบเป็นรายเดือน รายสัปดาห์และรายวัน
- ระบุทักษะสักอย่างหนึ่งที่คุณต้องการจะพัฒนาให้ได้ ซึ่งถ้าคุณพัฒนาขึ้นแล้วจะมีผลต่อความสำเร็จของคุณในอนาคตข้างหน้าได้
หนังสือแนะนำเพิ่มเติม
ถ้าคุณอยากก้าวข้ามหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง ตามแบบฉบับซุปเปอร์ฮีโร่เท่ๆ อย่าง The Matrix, Captain America, Batman, The Hobbit, James Bond ฯลฯ ห้ามพลาด!!
หนังสือ LEVEL UP YOUR LIFE: สร้างชีวิตจากซีโร่ ด้วยวิธีแบบฮีโร่
ถ้าอยากติดตามผลงานหนังสือของไบรอัน เทรซี่ เพิ่มเติมคุณสามารถเข้าไปที่ Blog ส่วนตัวของเขา มีบทความน่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองมากมายให้อ่าน คลิกที่นี่ >> [Brian Tracy’s Blog]
Pingback: สรุปหนังสือ The Checklist Manifesto บอกลาคำว่า “พลาด” แค่ใช้เช็คลิสต์
Pingback: สรุปหนังสือ Think and Grow Rich ตีแผ่ กฏความสำเร็จ ที่ถูกเก็บงำมากว่า 80 ปี