สวัสดีค่ะ แม้แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะจบไปนานแล้ว แต่เราก็ยังเห็นผู้เขียน เจ. เค. โรว์ลิ่ง ขึ้นพาดหัวข่าวไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะด้วยการประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์กับแฟนๆ ของพิวดี้พายทั่วโลก และการประกาศความสัมพันธ์ตัวละครในผลงานของเธอจนเป็นที่ถกเถียงกันมากมาย (กรินเดลวัลด์กับดัมเบิลดอร์) ตามมาด้วยมีมต่างๆ นานาสารพัด แบบนี้ไม่มีคำว่าคิดถึงจากปากแฟนๆ แน่นอน แต่แอดก็จะยังมาตอกย้ำความป๊อปปูล่าร์ของ เจ. เค. เข้าไปอีก ด้วยคำกล่าวสุนทรพจน์ ณ ฮาร์วาร์ดของเธอ ที่นอกจากจะทำให้รู้จักตัวเธอมากขึ้นแล้ว ก็จะช่วยจุดประกายใหม่ๆ ในตัวคุณผู้อ่านได้อีกด้วย เธอพูดว่าอะไรบ้างนะ ไปดูกันเลย!
ในปี 2012 เจ. เค. โรว์ลิ่ง ผู้เขียนหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ไม่ติดอันดับมหาเศรษฐีพันล้านของนิตยสาร Forbes เพราะเธอบริจาคเงินส่วนตัวให้กับองค์กรต่างๆ ไปมหาศาล
คำกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อปี 2008 ของเธอ จะช่วยให้เราเข้าใจนักสร้างสรรค์และใจบุญคนนี้มากขึ้น
ด้วยสำนวนที่ถ่อมตน โรว์ลิ่งได้แบ่งปันประสบการณ์ที่เธอเจอมากับตัว และบอกว่าที่เธอประสบความสำเร็จได้ต้องขอบคุณความล้มเหลวและจินตนาการ
ความล้มเหลวในชีวิตบางอย่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ จะให้ใช้ชีวิตอยู่โดยไม่ล้มเหลวเลยยิ่งเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่า คุณใช้ชีวิตได้อย่างระมัดระวังมากๆ มากเสียจนไม่อาจนับได้ว่าเป็นการใช้ชีวิตที่แท้จริง ซึ่งก็เหมือนคุณได้ล้มเหลวไปแล้ว
ในบทความนี้ คุณผู้อ่านจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ
- สิ่งที่เจ. เค. โรว์ลิ่ง ได้เรียนรู้จากความล้มเหลว
- สาเหตุที่จินตนาการสำคัญต่อความเห็นอกเห็นใจ
- สาเหตุที่คนเราต้องร่วมกันใช้จินตนาการเพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม
ในขณะที่กำลังเตรียมคำกล่าวสุนทรพจน์ในงานรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โรว์ลิ่งรู้สึกว่าตัวเองต้องหาคำพูดเป็นประโยชน์ต่อบัณฑิตหัวกะทิในอเมริกากลุ่มนี้ เธออยากให้คำแนะนำที่ตัวเธออยากได้ตอนเรียนจบ เธอให้บทเรียนสำคัญๆ 2 เรื่อง ได้แก่
- อย่ามองข้ามคุณค่าของความล้มเหลว
- จงตระหนักถึงความสำคัญของจินตนาการ
ความสุขส่วนตัวไม่ได้มาจากสิ่งของที่หามาได้หรือความสำเร็จ คุณสมบัติของคุณ…ไม่ใช่ทั้งชีวิตของคุณ
อย่ามองข้ามคุณค่าของความล้มเหลว
ในฐานะที่เรียนจบภาษายุโรปและกรีกละตินมา โรว์ลิ่งมั่นใจว่าความสำเร็จของเธอมาจากตัวชี้วัดเพียงตัวเดียว นั่นก็คือ ความสามารถในการตอบข้อสอบผ่านของเธอ เธอทำได้ดีมาตลอด แต่เธอกลัวความล้มเหลวมากหลังจากเรียนจบ เอกที่เลือกไม่ได้ช่วยให้เธอหางานง่ายนัก
7 ปีผ่านไปโรว์ลิ่งรู้สึกว่าชีวิตล้มเหลวอย่างถึงที่สุด จากการหย่าร้าง ตกงาน กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่แทบจะตกไปใต้เส้นความยากจนอยู่รอมร่อ กระนั้น ความทุกข์ยากก็ได้สอนบทเรียนอันทรงคุณค่ากับเธอมากมายนัก ในช่วงตกต่ำของชีวิตนั้นได้ทำให้เธอกลายเป็นคนหนักแน่นและมีวินัย ความล้มเหลวช่วยให้เธอรู้จักรักตัวเองมากขึ้น
เมื่อสิ่งที่กลัวได้เกิดขึ้นไปแล้ว เธอจึงมีเวลาไล่ตามสิ่งเดียวที่สำคัญกับเธอมากที่สุด นั่นก็คือ การเขียน หากคุณยอมรับว่าชีวิตกำหนดไม่ได้ คุณก็จะพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น
จินตนาการไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสามารถเฉพาะของมนุษย์ในการวาดภาพสิ่งต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นมาได้ แต่จินตนาการยังเป็นพลังที่ทำให้เราเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แม้เราจะไม่เคยร่วมประสบชะตากรรมเดียวกันก็ตาม
จงตระหนักถึงความสำคัญของจินตนาการ
งานแรกๆ ที่โรว์ลิ่งเข้าไปทำหลังเรียนจบ คืองานที่แอมเนสตี้ งานที่นั่นช่วยให้เธอเข้าถึงเรื่องราวของผู้อพยพและเหยื่อจากการทรมาน ซึ่งสอนให้เธอรู้จักความเลวร้ายของมนุษย์ แต่อีกด้านก็ได้แสดงให้เธอเห็นพลังของความดีของมนุษย์เช่นกัน
แอมเนสตี้ได้รวบรวมคนมาต่อสู้เพื่อเพื่อนมนุษย์ที่พวกเขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เพื่อนมนุษย์ที่ต้องประสบกับอำนาจเผด็จการ พวกเราทุกคนมีความเห็นอกเห็นใจให้กับคนอื่นๆ และ “เรียนรู้และเข้าใจ แม้จะไม่เคยเจอกับตัวเองมาก่อน” (จินตนาการ) เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อนิจจา หลายคนกลับเลือกที่จะทิ้งจินตนาการของตัวเอง ถ้าคุณเมินความหวาดกลัวของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ก็เท่ากับว่าคุณปล่อยให้ความป่าเถื่อนดำเนินต่อไป
ชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงได้แค่เพียงเพราะอีกคนยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้น เราทุกคนจึงมีความรับผิดชอบที่จะต้อง “จินตนาการให้ดีขึ้น” เพื่อพัฒนาโลกใบนี้
โรว์ลิ่งยังกล่าวตบท้ายด้วยคำคมของนักปรัชญาชาวโรมัน Lucius Annaeus Seneca ว่า
ชีวิตก็เหมือนเรื่องเล่า ไม่เกี่ยวว่ามันจะยาวแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่ามันน่าพึงพอใจแค่ไหนต่างหาก
แอดเชื่อว่าสุนทรพจน์ที่คมคายและจริงใจของโรว์ลิ่งนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณผู้อ่านหลายๆ ท่านได้นำไปประยุกต์ใช้กับทั้งชีวิตของตัวเองและสังคมโดยรวมต่อๆ ไป
แหล่งศึกษาเพิ่มเติม
- ยังมีคำกล่าวสุนทรพจน์ที่ฮาร์วาร์ดของอีกหนึ่งคนดัง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ที่แอดเคยเขียนไปแล้ว แม้ทั้งสองคนจะต่างกันทางความคิด แต่ให้แรงบันดาลใจได้ไม่ต่างกันเลย ตามไปอ่านกันได้ที่นี่
- ข่าวคราวเรื่องเจ. เค. โรว์ลิ่ง ยัดเยียดความเป็นเกย์ไว้ตรงนู้นตรงนี้ในหนังสือเด็ก (บ้างก็ว่าใช้หากินเลยทีเดียว!) ได้ทำเอาสื่อล้อเลียนอย่าง The Hard Times ต้องออกมาเขียนถึงเรื่องนี้ไว้อย่างฮาเฮจนน้ำตาเล็ด แนะนำไปขำกันที่ลิงก์นี้