กองทุน “ETF” ถูกพูดถึงเยอะมากในปัจจุบัน วันนี้เราจะมาดูกันครับว่ากองทุน ETF คืออะไร เหมาะกับคุณไหม แล้วดีกว่ากองทุนปกติยังไง?
ก่อนคุณจะอ่านต่อ ถ้าคุณกำลังศึกษาเรื่องการลงทุนอยู่ คุณอาจสนใจคอร์สลงทุนดีๆ ซึ่งจะสอนวิธีลงทุนอย่างละเอียด โดยนำเทคนิคของนักลงทุนชั้นนำทั่วโลกมาสอนคุณอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ (สอนตั้งแต่พื้นฐานจนลงทุนเก่ง)
นอกจากนี้ ถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณอาจสนใจไปลงทุนต่างประเทศ ผมมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแล้ว (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าถึง $1000 ด้วย)
สำหรับตอนนี้ เราจะมารู้จัก ETF กันดีกว่า
สรุป 3 บรรทัดสำหรับคนใจร้อน
ETF คือกองทุนประเภทหนึ่งที่ซื้อขายในตลาดหุ้น แทนที่จะซื้อผ่านธนาคารแบบกองทุนรวมรุ่นเก่า
นอกจากวิธีซื้อขายแล้ว ETF ไม่มีอะไรต่างจากกองทุนปกติ แต่ ETF มักเก็บค่าธรรมเนียมบริหารต่ำกว่า เพราะเขาบริหารเงินง่าย ไม่ต้องมาคอยระวังว่าลูกค้าจะมาถอนหรือซื้อหน่วยลงทุนทุกวัน
กองทุน ETF จึงดีกว่ากองทุนรวมธรรมดา ทั้งซื้อง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ เป็นทางเลือกที่ดีของนักลงทุน
คนไทยส่วนใหญ่ลงทุนต่างประเทศผ่านกองทุนรวม แต่เราสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ แล้วซื้อ ETF ในต่างประเทศได้โดยตรง ซึ่งจะมีหลายชนิดให้เลือกมากกว่า และค่าธรรมเนียมต่ำกว่ามาก ขนาดที่ในระยะยาวทำให้ความมั่งคั่งต่างกันหลายเท่า
รู้จักกันก่อนว่า ETF คืออะไร
สมัยก่อน เวลาเราซื้อกองทุน เราก็จะไปซื้อที่ธนาคารใช่ไหมครับ
พอคนไปซื้อขายกองทุน เขาก็เอาเงินนี้แหละไปลงทุนต่อให้เรา ขึ้นอยู่กับกองทุนนั้นว่ามีนโยบายลงทุนอะไร (หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ ฯลฯ)
ปัญหาก็คือ…
- ราคากองทุนไม่ได้คิดแบบ real-time แต่ต้องรอให้สิ้นวันค่อยคำนวณ
- นักลงทุนจะมีค่าธรรมเนียมสูงตอนซื้อขายกองทุน เพราะพอมีคนซื้อขายกองทุน ก็จะมีเงินเข้าออกทุกวัน กองทุนก็บริหารเงินยาก ลงทุนได้ไม่เต็มที่ กองทุนจึงมาคิดค่าธรรมเนียมซื้อขายกับเราเพื่อชดเชยตรงนี้
ในที่สุดก็เลยมีคนคิดไอเดียว่า…
งั้นเราก็เอากองทุนไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น ให้ซื้อขายกันในนั้นเลยสิ จะได้หมดเรื่อง!
จึงเกิดเป็นกองทุนชนิดใหม่ที่เรียกว่า ETF (Exchange-Traded Fund) ซึ่งเป็นกองทุนที่ซื้อขายกันในตลาดหุ้นได้เลย ไม่ต้องไปซื้อขายผ่านธนาคารอีกต่อไป
นอกจากวิธีซื้อขายแล้ว ETF ไม่มีอะไรต่างจากกองทุนปกติ เราสามารถเลือกซื้อ ETF ได้หลากหลายชนิด เหมือนกับที่เราเลือกซื้อกองทุนรวมได้หลายชนิด บางตัวก็มีนโยบายลงทุนหุ้น ลงทุนตราสารหนี้ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ขึ้นอยู่กับว่ากองทุนรวม/ETF นั้นจะเลือกลงทุนอะไร
คุณจึงสามารถลงทุนใน ETF ได้เหมือนกองทุนรวม ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ามาก
ทำไม ETF ถึงดีกว่ากองทุนรวมปกติ
โดยเนื้อแท้ของมัน ทั้ง ETF และกองทุนรวมก็คือสิ่งเดียวกันนี่เองครับ
ทั้งคู่ก็คือกองทุนที่เอาเงินของเราไปให้เขาบริหารตามนโยบายของกองทุนนั้น (อาจจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์)
ข้อแตกต่างเดียวก็คือการที่ ETF ซื้อขายกันในตลาดหุ้น แต่กองทุนรวมซื้อขายผ่านธนาคาร
ซึ่งนั่นทำให้ ETF เกิดข้อได้เปรียบหลายอย่างขึ้นมา ดังนี้
- ถูกกว่า ETF มักมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนรวม
- คล่องตัวกว่า ซื้อขายได้ในตลาดหุ้น กดจึ้กเดียวซื้อได้เลย และราคาเป็น real time ไม่ต้องรอปรับราคาหลังตลาดหุ้นปิดแล้ว
ข้อเสียของ ETF
กองทุน ETF ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ข้อเสียของกองทุนรวมรุ่นเก่า และเนื่องจากมันใหม่กว่า จึงถูกออกแบบมาให้ดีกว่าของเดิม ข้อเสียจึงไม่ค่อยมี
แต่ถ้าจะมี ข้อเสียเล็กๆ ที่ผมพอจะนึกออกของ ETF ก็คือ
- มีให้เลือกน้อยกว่า เพราะเป็นของใหม่
- ต้องซื้อในตลาดหุ้น จึงต้องซื้อระหว่าง 10.00 – 16.40 เท่านั้น (แต่เราส่งคำสั่งซื้อรอไว้ได้)
ลงทุนหุ้นต่างประเทศผ่าน ETF ก็ยังได้
ต้นไม่ที่ร่มรื่นย่อมเริ่มจากเมล็ดพันธุ์ที่ดี การลงทุนที่ดีจึงอยู่ในเศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโต มีนวัตกรรม และมี dynamics สูง
แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตช้าลงมาก คนไทยเกิดน้อยลง สังคมกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ใครที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจจะพอรู้ว่า “มืดมน” นักลงทุนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะเซียนหุ้นที่เข้าใจเรื่องนี้ จึงเริ่มเลี่ยงไปลงทุนต่างประเทศกันมากขึ้น
หลายคนไม่อยากวิเคราะห์หุ้นต่างประเทศเอง ก็ลงทุนผ่านกองทุนได้ โดยคุณมีทางเลือกคือ
- ซื้อกองทุนไทยที่ไปซื้อ ETF หรือกองทุนในต่างประเทศอีกที ข้อเสียคือ คุณจะเจอค่าธรรมเนียมสองต่อ ให้กองทุนไทยและกองทุนต่างประเทศ จึงทำให้เรามั่งคั่งน้อยลง
- เปิดพอร์ตลงทุนในต่างประเทศ แล้วไปซื้อ ETF ที่ต่างประเทศโดยตรง วิธีนี้ก็เหมือนวิธีแรก เพราะสุดท้ายคนที่บริหารการลงทุนจริงๆ คือกองทุนในต่างประเทศอยู่ดี แต่คุณจะไม่โดนค่าธรรมเนียมแสนแพงที่ซ้ำซ้อนจากกองทุนไทย
ถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณเองก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แล้วคุณจะพบว่าโอกาสดีๆ มีอยู่มาก ผมมีบทความสอนวิธีซื้อ ETF โดยตรงในอเมริกาให้คุณแล้ว (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าสูงสุด $1000 ด้วย)
เรียนคอร์สลงทุน “นักลงทุนมือหนึ่งของโลก”
อยากศึกษาเรื่องการลงทุนแต่เริ่มไม่ถูก?
บิงโกมีคอร์สสอนลงทุนที่จะคุณอาจสนใจ คอร์สนี้จะสอนคุณตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูง มือใหม่เรียนจบก็พร้อมลงทุนจริงได้เลย
คอร์สนี้ถูกออกแบบให้พิเศษกว่าคอร์สลงทุนทั่วไป เพราะมาจากหนังสือลงทุนของเซียนหุ้นระดับโลก ทั้งวอร์เรน บัฟเฟตต์, ปีเตอร์ ลินช์, เบนจามิน เกรแฮม, ดร.นิเวศน์ และอื่นๆ จนเหมือน “นักลงทุนระดับโลกมาสอนคุณเอง” ทุกเล่มที่เราคัดมาคือหนังสือลงทุนที่ดีที่สุด ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็น “ของจริง” และจะร่นเวลาให้คุณลงทุนได้เก่งกาจอย่างรวดเร็ว