ตอนนี้คนไทยหันไปลงทุนหุ้นต่างประเทศกันมากขึ้น เพราะมองเห็นโอกาสที่ดีกว่า แต่สิ่งสำคัญที่หลายๆ คนลืมคิดไปก็คือ “ภาษี”
หลายคนไปลงทุนต่างประเทศได้กำไรมาเยอะ แต่ไม่ได้วางแผนเรื่องภาษีเผื่อเอาไว้ พอถึงเวลาที่ต้องจ่ายภาษี จึงต้องเสียภาษีเยอะ ผลตอบแทนจึงไม่สูงเท่าที่ควร
วันนี้ผมจะสรุปเรื่องภาษีในการลงทุนต่างประเทศทั้งหมดให้คุณเข้าใจเองครับ
ถ้าคุณสนใจการลงทุนต่างประเทศ ลองเข้าไปดูบทความ วิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศ ได้เลย หรือถ้าคุณกำลังหาโบรกเกอร์เปิดพอร์ต ลองอ่านวิธีเปิดพอร์ตลงทุนต่างประเทศดู (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าสูงสุด $1000 ด้วย)
ภาษีในการลงทุนหุ้นอเมริกา
อเมริกาเป็นประเทศที่กฎหมายซับซ้อน ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณจัดเป็นบุคคลแบบไหนในสายตารัฐบาลอเมริกา
- สัญชาติอเมริกัน: เสียภาษีเหมือนคนอเมริกัน ไม่ว่าคุณจะเคยไปเหยียบแผ่นดินสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ดูรายละเอียดที่นี่
- คนต่างชาติที่อาศัยในอเมริกา: เสียภาษีเหมือนคนอเมริกัน ดูรายละเอียดที่นี่
- คนต่างชาติที่อยู่นอกอเมริกา: อ่านต่อข้างล่างเลย!
คนไทยปกติจะจัดเป็น คนต่างชาติที่อยู่นอกอเมริกา ซึ่งมีหลักการเสียภาษีที่เรียบง่าย ดังนี้ครับ
- เงินปันผล (Dividends) เสียภาษี ณ ที่จ่าย 30% คุณจะไม่ได้คืน (ยกเว้นคุณจะทำเอกสารภาษีเพิ่มเติมที่วุ่นวายพอสมควร ก็จะลดเป็น 15%ได้)
- กำไรจากการขายหุ้น (Capital Gains) ไม่ต้องเสียภาษีให้อเมริกา แต่เสียภาษีให้สรรพากรไทยก็พอ
- แต่!! สรรพากรไทยใจดี ถ้าคุณได้กำไรจากการขายหุ้น แล้วไม่เอาเงินกลับไทยในปีภาษีนั้น ก็ไม่ต้องจ่ายภาษี
- สรุปว่า ถ้าขายหุ้นแล้วไม่รีบเอาเงินกลับ ก็ไม่เสียภาษี
แล้วคุณควรลงทุนยังไง?
คุณจะเห็นว่าอเมริกาจะไม่เก็บภาษีเวลาขายหุ้นได้กำไร แต่จะเก็บภาษีเงินปันผลเยอะมาก (30%) ดังนั้นถ้าคุณคิดจะลงทุนหุ้นอเมริกา ควรเลือกซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลต่ำ ลงทุนแบบเน้นให้ราคาหุ้นขึ้นสูง (Capital Gains) เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายภาษีเงินปันผล
อเมริกาขึ้นชื่อเรื่องหุ้นเทคโนโลยีที่สร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคุณจะสามารถหาหุ้น Super Stocks หรือหุ้น 10 เด้งได้ง่ายกว่าในไทย นอกจากนี้ยังมีหุ้นชนิดอื่นๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งอ่านเพิ่มเติมได้ใน หุ้น 6 ชนิดของปีเตอร์ ลินช์ ครับ
ถ้าคุณไม่อยากเลือกหุ้นเอง คุณก็มีทางเลือกในการ ซื้อกองทุนต่างประเทศ ให้กำไรมากขึ้น 100% อีกด้วย
ภาษีในการลงทุนหุ้นจีนและฮ่องกง
ภาษีจากการลงทุนหุ้นจีนและฮ่องกง จะแยกระหว่างหุ้นฮ่องกงแท้ๆ กับหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง
- เงินปันผล (Dividends) สำหรับหุ้นฮ่องกงแท้ๆ ไม่ต้องจ่าย แต่หุ้นจีนและหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง โดนหัก ณ ที่จ่าย 10%
- กำไรจากการขายหุ้น (Capital Gains) ไม่ต้องเสียภาษีให้จีน แต่เสียภาษีให้สรรพากรไทยก็พอ
- แต่!! สรรพากรไทยใจดี ถ้าคุณได้กำไรจากการขายหุ้น แล้วไม่เอาเงินกลับไทยในปีภาษีนั้น ก็ไม่ต้องจ่ายภาษี
- สรุปว่า ถ้าขายหุ้นแล้วไม่รีบเอาเงินกลับ ก็ไม่เสียภาษี
ภาษีในการลงทุนหุ้นเวียดนาม
ภาษีจากการลงทุนหุ้นเวียดนาม แทบจะไม่ต้องเสียครับ
- เงินปันผล (Dividends) ไม่ต้องจ่าย
- กำไรจากการขายหุ้น (Capital Gains) ไม่ต้องเสียภาษีให้เวียดนาม แต่เสียภาษีให้สรรพากรไทยก็พอ
- แต่!! สรรพากรไทยใจดี ถ้าคุณได้กำไรจากการขายหุ้น แล้วไม่เอาเงินกลับไทยในปีภาษีนั้น ก็ไม่ต้องจ่ายภาษี
- สรุปว่า ถ้าขายหุ้นแล้วไม่รีบเอาเงินกลับ ก็ไม่เสียภาษี
เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศที่ไหนดีที่สุด
การลงทุนหุ้นคือการซื้อธุรกิจที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นหุ้นที่ดีจะอยู่ในเศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโต มีนวัตกรรม และมี dynamics สูง
คนที่อยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง จึงสนใจลงทุนต่างประเทศมากขึ้น
ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ช่วงแรกที่ผมเริ่มลงทุนหุ้นต่างประเทศ ผมทำผิดพลาดเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องโบรกเกอร์ ผมเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ไทยที่มีชื่อเสียงเพราะคิดว่าเขาน่าจะให้บริการได้ดี แต่ผมกลับต้องเสียค่าใช้จ่ายยิบย่อยเยอะมาก เวลาซื้อขายหุ้นก็ติดข้อจำกัดเยอะไปหมด โอนเงินก็ช้า และค่าธรรมเนียมเยอะจนน่าใจหาย
เพื่อไม่ให้คุณผิดพลาดแบบผม ผมจึงมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแบบละเอียด หรือถ้าคุณกำลังหาโบรกเกอร์เปิดพอร์ต ลองอ่านวิธีเปิดพอร์ตลงทุนต่างประเทศดู (คุณจะได้หุ้นฟรี $1000 ด้วย)
สำหรับคนที่คิดว่าการลงทุนหุ้นต่างประเทศไกลตัวเกินไป อยากซื้อกองทุนให้เขาไปลงทุนหุ้นต่างประเทศแทนเรา นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดีมากครับ แต่ก่อนหน้านั้น ผมแนะนำให้อ่าน ซื้อกองทุนต่างประเทศยังไง ให้กำไรมากขึ้น 100% ซึ่งผมเขียนไว้ให้คุณโดยเฉพาะเลยครับ
เรียนคอร์สลงทุน “นักลงทุนมือหนึ่งของโลก”
อยากศึกษาเรื่องการลงทุนแต่เริ่มไม่ถูก?
บิงโกมีคอร์สสอนลงทุนที่จะคุณอาจสนใจ คอร์สนี้จะสอนคุณตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูง มือใหม่เรียนจบก็พร้อมลงทุนจริงได้เลย
คอร์สนี้ถูกออกแบบให้พิเศษกว่าคอร์สลงทุนทั่วไป เพราะมาจากหนังสือลงทุนของเซียนหุ้นระดับโลก ทั้งวอร์เรน บัฟเฟตต์, ปีเตอร์ ลินช์, เบนจามิน เกรแฮม, ดร.นิเวศน์ และอื่นๆ จนเหมือน “นักลงทุนระดับโลกมาสอนคุณเอง” ทุกเล่มที่เราคัดมาคือหนังสือลงทุนที่ดีที่สุด ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็น “ของจริง” และจะร่นเวลาให้คุณลงทุนได้เก่งกาจอย่างรวดเร็ว