ลงทุนหุ้นต่างประเทศ + หุ้นอเมริกา เปิดพอร์ตโบรกเกอร์ที่ไหนดีสุด

ตอนผมเริ่มลงทุนหุ้นต่างประเทศครั้งแรก ผมทำผิดพลาดหลายเรื่อง โดยเรื่องหนึ่งที่ผมพลาดที่สุดคือการเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์

มีโบรกเกอร์ไทยหลายเจ้าที่รับเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ความผิดพลาดของผมก็คงเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ คือไปใช้บริการโบรกเกอร์ไทยที่น่าเชื่อถือ ซึ่งหันมาให้บริการเสริมเป็นการลงทุนต่างประเทศด้วย

แต่ผมมาค้นพบทีหลังว่าโบรกเกอร์ไทยยังให้บริการด้อยอยู่มาก ทั้งเครื่องมือ ค่าธรรมเนียม การโอนเงิน และกระทั่งการบริการลูกค้า

ผมลองผิดลองถูกมาหลายโบรกเกอร์ จึงได้เรียนรู้ว่าควรทำอย่างไร และจะมาอธิบายให้คุณฟัง พร้อมดูวิธีเปิดพอร์ตกับเขากัน (สมัครผ่านลิงก์นี้ จะได้หุ้นฟรี $1000 ครับ)

คนที่สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ ผมขอแนะนำอ่านวิธีลงทุนหุ้นต่างประเทศ เพิ่มเติมนะครับ

 

เปรียบเทียบโบรกเกอร์หุ้นต่างประเทศ เปิดพอร์ตที่ไหนดีสุด?

ตอนผมเริ่มลงทุนหุ้นต่างประเทศครั้งแรก ผมทำผิดพลาดหลายเรื่อง โดยเรื่องหนึ่งที่ผมพลาดที่สุดคือการเลือกโบรกเกอร์

มีโบรกเกอร์ไทยหลายเจ้าที่รับเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ความผิดพลาดของผมก็คงเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ คือไปใช้บริการโบรกเกอร์ไทยที่น่าเชื่อถือ ซึ่งหันมาให้บริการเสริมเป็นการลงทุนต่างประเทศด้วย

ผิดผิดผิดผิดผิด

โบรกเกอร์ไทยที่จริงแล้วไม่ได้มีระบบของเขาเองอยู่ในเมืองนอก เขาจึงต้องไป “ร่วมธุรกิจ” กับโบรกเกอร์เมืองนอก พอเราส่งคำสั่งซื้อขายไป เขาก็ต้องส่งต่อไปเมืองนอกอีกที ทำให้มีการดำเนินการหลายชั้นซ้ำซ้อนกัน

นอกจากนี้ ระบบของโบรกเกอร์ไทยหลายเจ้ายังค่อนข้างไม่มีประสิทธิภาพ บางส่วนใช้คนดำเนินการอยู่ ค่าใช้จ่ายของเขาจึงสูงมาก ต่างจากระบบในอเมริกาซึ่งแทบจะเป็นอัตโนมัติกันหมดแล้ว

ผมขอให้คุณเปรียบเทียบตามตารางนี้ครับ

ลองดูโบรกเกอร์ไทยง่ายๆ ครับ ของ Philip คิดค่าธรรมเนียม 0.25% ซึ่งดูไม่สูง แต่ค่าธรรมเนียมตรงนี้เมื่อเราลงทุนไปเรื่อยๆ เราจะต้องมีการซื้อขายหุ้นเมื่อเวลาผ่านไป และเมื่อมันทบต้นไปนานเข้า สุดท้ายมันจะทำให้เงินของคุณหายไปครึ่งนึงได้เลย ส่วนเจ้าอื่นยิ่งแล้วใหญ่ อย่าง SCBS ถ้าคุณซื้อขายไปนานๆ เงินจะหายไป 70% ตามตาราง (คุณเหลือ 30% ส่วนเงิน 70% ที่หายไปจะอยู่ที่โบรกเกอร์หมด)

ตัวที่ดีที่สุดคือ Fidelity ซึ่งเป็นโบรกเกอร์อเมริกัน เจ้านี้เขาไม่มีค่าคอมมิชชั่นซื้อขาย แต่ไม่ให้คนไทยเปิดบัญชีได้ง่ายๆ ยกเว้นคุณจะมี Social Security Number และไปอยู่ที่อเมริกานานพอสมควรแล้ว

เพื่อไม่ให้เสียเวลา สรุปง่ายๆ คือ Interactive Brokers ค่าธรรมเนียมซื้อขายถูกสุดครับ และไม่ได้ถูกกว่านิดเดียว แต่ถ้าคุณลงทุนไปนานๆ มันจะส่งผลระดับที่พอร์ตของคุณจะต่างกันเป็นเท่าๆ เลยเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ไทย

คุณสามารถเปิดพอร์ตกับเขาผ่านลิงก์นี้ จะได้หุ้นฟรี $1000 นะครับ ส่วนคนที่อยากอ่านขั้นตอนแบบละเอียด เลื่อนลงมาดูต่อด้านล่างได้เลย

 

Interactive Brokers เป็นใคร เชื่อใจได้ไหม?

เรื่องความน่าเชื่อถือ Interactive Brokers เป็นหนึ่งใน Top 5 ของอเมริกา และหลายสำนักก็จัดให้เป็นอันดับ 1 เจ้านี้ทำธุรกิจมา 40 กว่าปี จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับ SEC อเมริกา และหุ้นของโบรกเกอร์นี้ยังอยู่ในตลาดหุ้นอเมริกาอีกด้วย

นอกจากนี้ Interactive Brokers ยังมีระบบเทรดที่ครบเครื่องที่สุด มืออาชีพในอเมริกาใช้งานกันมากที่สุด อันที่จริงถ้าคุณซื้อขายหุ้นไม่บ่อย เรื่องนี้อาจไม่มีผลมาก แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยคุณได้เยอะในวันที่คุณจะซื้อหรือขาย เพราะมันจะทำให้คุณซื้อขายหุ้นได้ในราคาที่ดีขึ้นมาก

แล้วใครจะรู้ว่าเมื่อคุณลงทุนไปเรื่อยๆ คุณอาจต้องการพัฒนามาใช้เครื่องมือที่สูงขึ้น ซึ่งเขาก็มีให้คุณหมด ไม่ต้องมาย้ายโบรกเกอร์ทีหลังให้ยุ่งยาก

 

เครื่องมือครบ ซื้อหุ้นได้ทั่วโลก

ถึงแม้เจ้านี้จะเป็นโบรกเกอร์อเมริกา พอคุณเปิดบัญชีเสร็จก็จะไปซื้อหุ้นได้ทั่วโลกเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นแคนาดา ออสเตรเลีย ยุโรป ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ ก็ได้หมด จะมีที่ไม่ได้ก็คือเวียดนามเท่านั้น

คุณจะเข้าถึงทุกสินทรัพย์ตั้งแต่ Futures, Options, ETF, CFD รวม 135 ตลาดจาก 33 ประเทศและ 23 สกุลเงิน

สามารถตั้งค่าทำ Algo Trading ได้ มีเครื่องมือทั้ง Technical และ Fundamental เรียกได้ว่าคุณเป็นแค่รายย่อย แต่ลงทุนด้วยเครื่องมือในระดับเดียวกับกองทุนข้ามชาติ

เวลาเราโอนเงินข้ามสกุล อัตราแลกเปลี่ยนของเขาจะเรทดีกว่าแบงก์หรือโบรกเกอร์ไทย เพราะธุรกิจหลักของเขาคือโบรกเกอร์ เขาเลยไม่ได้หากำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

1. เปิดบัญชีตอนนี้รับหุ้นฟรีมูลค่ามากสุด $1000

คุณสามารถเปิดบัญชี Interactive Brokers ได้ตามลิงก์นี้เลยครับ

ถ้าคุณสมัครผ่านลิงก์ คุณจะได้รับหุ้นฟรีด้วย มูลค่าสูงสุด $1000 (ที่จริงเปิดบัญชีเพื่อไปเอาหุ้นฟรี แล้วค่อยปิดก็ยังได้)

 

พอคุณเข้าไป ก็กรอกรายละเอียดตามภาพ แล้วกดปุ่ม Create Account

เสร็จแล้วเช็คอีเมลเพื่อ Verify Account

มันจะเปิดหน้าล็อกอินขึ้นมา ให้เราใส่ Username/Password เข้าระบบ

ตรง Customer Type ให้เลือก Individual แล้วกด Continue สีเขียว

กรอกข้อมูลส่วนตัว City กับ State/Province ให้ใส่ “จังหวัด” (ใส่เหมือนกัน)

Tax Identification Number ให้ใส่ “เลขประจำตัวประชาชน”

 

Identification เขาจะให้เราเลือกใช้เอกสารได้หลายชนิด แนะนำให้ใช้ National Identity Card แล้วใส่ “เลขประจำตัวประชาชน”

 

 

Account Type เลือกได้ตามสบาย แต่ถ้าใครเพิ่งเริ่มต้นลงทุน ผมแนะนำ Cash ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นด้วยเงินสด จะทำให้คุณลงทุนโดยปลอดภัยมากขึ้น แล้วถ้าเราเก่งก็สามารถมาเปลี่ยนทีหลังเป็นแบบ Margin ซึ่งเสี่ยงมากขึ้นได้

 

Liquid Net Worth คือเงินที่เรามี แต่คิดเฉพาะหุ้นกับเงินในธนาคาร

Net Worth คือทรัพย์สินทั้งหมด ทั้งบ้าน รถ ที่ดิน พระเครื่อง หุ้น เงิน ฯลฯ

 

ตรงนี้ตอบ No ให้หมดครับ

 

ตรงนี้ให้ติ๊กถูกครับ เขาจะเอาหุ้นเราไปให้คนอื่นยืมไปเทรด แล้วเราจะได้เงินเพิ่มเป็นค่าให้ยืม

พอกรอกข้อมูลเสร็จเขาจะให้เรายืนยัน อย่าลืมติ๊กถูกแล้วเลือก Thailand ตรง Treaty Benefits Qualifications

 

 

ตรงนี้ Yes ให้หมด

 

 

เสร็จแล้วเขาจะพาเราไปหน้าอัพโหลดเอกสารครับ ตรงนี้เป็นหน้าสุดท้ายแล้ว จบตรงนี้ก็ซื้อขายได้เลย!

• ให้เราโอนเงินเข้าไปตรงปุ่ม Fund Your Account
• กดตอบคำถาม Answer Questions
• อัพโหลดสำเนาที่มีรูปเรา + เอกสารยืนยันทะเบียนบ้านตรง Upload Document

จบตรงนี้ก็ซื้อขายได้เลย!

 

2. เข้ามาเช็คทุก 1-2 วันว่าเอกสารของเรามีปัญหาหรือเปล่า

บางทีเอกสารที่เราอัพโหลดไปอาจไม่ได้ขนาด หรือภาพเบลอ หรือใช้ไม่ได้ ก็ให้เราอัพโหลดใหม่ครับ

เขาจะไม่แจ้งเตือนเราว่าเอกสารไม่ผ่าน ตรงนี้เราต้องคอยเข้าไปดูเอง ปกติเขาจะตรวจเอกสารเสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง (อัพโหลดตอนเช้า ตอนสาย-บ่ายก็น่าจะได้แล้ว) แต่ถ้าช่วงนั้นคนเยอะอาจนานหน่อย

 

3. ดาวน์โหลดโปรแกรมซื้อขาย

พอคุณสมัครเสร็จ คุณสามารถซื้อขายผ่านเว็บไซต์ของเขาก็ได้ โดยล็อกอินได้ที่ https://www.interactivebrokers.com/sso/Login

แต่ถ้าคุณอยากซื้อขายแบบครบเครื่อง เขาจะมีโปรแกรมให้โหลดเลยครับ แล้วคุณก็จะซื้อขายผ่านโปรแกรมนั้นได้

เข้าไปโหลดโปรแกรมลงคอมพิวเตอร์ได้ที่ https://www.interactivebrokers.com/en/index.php?f=16040

ถ้าใครชอบกดในโทรศัพท์ โหลดแอพได้ที่ https://investors.interactivebrokers.com/en/index.php?f=1300

 

4. วิธีซื้อขายและ Bid-Ask

ในการซื้อขายหุ้น จะมีสิ่งที่เรียกว่า Bid-Ask อยู่ (ในไทยจะเรียกว่า Bid-Offer แต่ในอเมริกาเป็น Bid-Ask)

1. Bid คือราคาสูงสุดที่คนซื้อยอมซื้อ
2. Ask คือราคาต่ำสุดที่คนขายยอมขาย

หุ้นทุกตัวจะมี Bid ต่ำกว่า Ask เสมอ ซึ่งเป็นสภาพที่กำลังเกิดการต่อรองราคา คนซื้อให้ราคาสูงสุดเป็น Bid แต่ราคานี้ก็ยังต่ำกว่า Ask ที่คนขายอยากได้ จึงยังไม่เกิดการซื้อขายขึ้น

แต่ถ้ามีคนซื้อคนไหนเปลี่ยนใจ เพิ่ม Bid ให้สูงขึ้นจน Bid สูงกว่า Ask ก็จะเกิดการซื้อขายขึ้น เพราะคนซื้อยอม “ซื้อในราคา Ask ที่คนขายต้องการ”

ในทางกลับกัน ถ้ามีคนขายคนไหนเปลี่ยนใจ ลด Ask ให้ต่ำลง จน Bid สูงกว่า Ask ก็จะเกิดการซื้อขายขึ้น เพราะคนขายยอม “ขายในราคา Bid ที่คนซื้อต้องการ”

เวลาเราส่งคำสังซื้อ เราจะซื้อได้ 2 แบบ

1. Market Order ซื้อในราคา Ask ของหุ้นตัวนั้น เขาขายราคาไหนก็ราคานั้น (อาจซื้อได้แพง)
2. Limit Order ซื้อโดยกำหนด Bid ของเราเอง ถ้ามีคนขายราคาต่ำกว่า Bid เราก็จะซื้อหุ้นตัวนั้นได้ในราคาไม่เกิน Bid แต่ถ้าไม่มีคนขาย คำสั่งซื้อของเราก็จะค้างอยู่ตรงนั้น จนกว่าจะมีคนยอมขาย

เวลาเราส่งคำสังขายก็เหมือนกัน เราจะขายได้ 2 แบบ

1. Market Order ขายในราคา Bid ของหุ้นตัวนั้น ขายทุกราคา มีคนรับซื้อราคาไหนก็ขาย (อาจขายได้ถูก)
2. Limit Order ขายโดยกำหนด Ask ของเราเอง ถ้ามีคนซื้อราคาสูงกว่า Ask เราก็จะขายหุ้นตัวนั้นได้ในราคา Ask หรือมากกว่า แต่ถ้าไม่มีคนซื้อ คำสั่งขายของเราก็จะค้างอยู่ตรงนั้น จนกว่าจะมีคนยอมซื้อ

 

5. แหล่งข้อมูลในการลงทุนหุ้นต่างประเทศ

เมื่อเราตัดสินใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ เราก็ต้องติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ ผมมีแหล่งข้อมูลดีๆ มาแนะนำดังนี้ครับ

• seekingalpha.com ชุมชนนักลงทุน ใช้หาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น ทั้งข่าวสาร บทวิเคราะห์ และงบการเงินของหุ้นอเมริกา
• stocktwits.com เป็นเหมือนทวิตเตอร์สำหรับหุ้น ข้างในจะมีคนมาโพสต์ความคิดเห็นต่างๆ ซึ่งจริงบ้างเท็จบ้าง บางครั้งก็มีข่าวปลอม บ่อยครั้งก็มีความคิดเห็นที่ไม่ได้เรื่อง แต่คุณจะเห็นภาพรวมว่าคนที่ลงทุนหุ้นแต่ละตัวกำลังคิดอะไรอยู่
• finviz.com หาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น สภาพตลาด และยังมีเครื่องมือสแกนหุ้นด้วย
• www.fool.com มีบทความเชียร์หุ้นอเมริกาต่างๆ ซึ่งควรฟังหูไว้หู แต่พออ่านแล้วเราจะได้ชื่อหุ้นมาวิเคราะห์ต่อ
• newsfilter.io หาข่าวที่เกี่ยวกับหุ้นแต่ละตัวได้เลย สะดวกมากเวลาเราอยากรู้ว่าหุ้นของเรามีข่าวอะไรบ้าง
• finbox.com ช่วยในการวิเคราะห์มูลค่าหุ้น มีงบการเงินให้ด้วย
• investing.com สำหรับตามข่าวเกี่ยวกับหุ้นโดยเฉพาะ
• bloomberg.com สำหรับตามข่าวเศรษฐกิจภาพรวม

 

6. เว็บไซต์วิเคราะห์กราฟ

ใช้เว็บ Trading View ในการวิเคราะห์กราฟหุ้นครับ เว็บนี้มีฟังก์ชันเยอะมาก ซึ่งพลิกแพลงได้หลายวิธีจนถึงขนาดมีคอร์สสอนกันเลย

นอกจากหุ้นแล้วยังสามารถใช้ดูราคาอย่างอื่นได้ด้วย เช่นบิทคอยน์ ราคาน้ำมัน ฯลฯ

ลองหาเทคนิคใช้ต่างๆ ได้ตามกูเกิลหรือยูทูปครับ

 

อ่านบทความการลงทุนต่างประเทศดีๆ เพิ่มเติม

คนที่สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ ผมขอแนะนำอ่านวิธีลงทุนหุ้นต่างประเทศ แบบเผยหมดเปลือกได้เลย

คนที่สนใจการลงทุนหุ้นต่างประเทศ หลายคนอยากซื้อหุ้นเทคโนโลยี มีนวัตกรรม เป็น “หุ้นแห่งอนาคต” ที่กำลังจะเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก ไม่ว่าจะเป็น Big Data รถยนต์ไฟฟ้า ชิป AI คลาวด์คอมพิวติ้ง IOT ฯลฯ มาดูกันว่าเทรนด์โลกจะไปทางไหน จะมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ บ้าง

นอกจากนี้ ลองอ่านวิธีลงทุน 4 สไตล์ในโลกเพื่อหาแนวทางที่เหมาะกับตัวเอง โดยวิธีที่ผมแนะนำคือการลงทุนแนวเน้นคุณค่าหรือ VI ซึ่งเป็นสไตล์ที่นิยมที่สุด และคุณยังอาจเข้าไปดูเทคนิควิเคราะห์งบการเงินสำหรับมือใหม่ครับ

หรือถ้าคุณอยากหาหนังสือหุ้นมาอ่านเพิ่มเติม ผมได้ลิสต์หนังสือดีๆ ไว้ให้คุณอ่านเรียบร้อยแล้ว

 

เรียนคอร์สลงทุน “นักลงทุนมือหนึ่งของโลก”

อยากศึกษาเรื่องการลงทุนแต่เริ่มไม่ถูก?

บิงโกมีคอร์สสอนลงทุนที่จะคุณอาจสนใจ คอร์สนี้จะสอนคุณตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูง มือใหม่เรียนจบก็พร้อมลงทุนจริงได้เลย

คอร์สนี้ถูกออกแบบให้พิเศษกว่าคอร์สลงทุนทั่วไป เพราะมาจากหนังสือลงทุนของเซียนหุ้นระดับโลก ทั้งวอร์เรน บัฟเฟตต์, ปีเตอร์ ลินช์, เบนจามิน เกรแฮม, ดร.นิเวศน์ และอื่นๆ จนเหมือน “นักลงทุนระดับโลกมาสอนคุณเอง” ทุกเล่มที่เราคัดมาคือหนังสือลงทุนที่ดีที่สุด ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็น “ของจริง” และจะร่นเวลาให้คุณลงทุนได้เก่งกาจอย่างรวดเร็ว

ดูรายละเอียด

 

• Facebook
• Twitter
• Line