ถ้าคุณมีอิสระจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ ไปที่ไหนก็ได้ที่อยากไป คุณจะยังทำงานที่คุณทำอยู่ทุกวัน หรือใช้ชีวิตแบบทุกวันนี้หรือเปล่า?
สิ่งต่างๆ ที่เราอยากได้ในชีวิต ส่วนใหญ่ทำไม่ยากหรอกครับ แต่ติดแค่ว่า “ขาดเงิน”
- อยากเปิดร้านกาแฟของตัวเอง
- อยากก่อตั้งธุรกิจในฝัน
- อยากไปเที่ยวต่างประเทศทุกปี
- อยากนอนกลิ้งอยู่ที่ชายหาด ไม่อยากทำงานอีกแล้ว
- อยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดีๆ
- อยากดูแลครอบครัวให้อยู่สุขสบาย
ทุกสิ่งที่ผมลิสต์มาเหล่านี้ใช้เงิน คุณไม่มีทางทำได้ถ้าไม่มีเงิน
ดังนั้นที่ผมถามว่าอิสรภาพของคุณราคาเท่าไร มันก็คือจำนวนเงินที่ต้องใช้ ให้คุณได้มีชีวิตในแบบที่ต้องการ โดยไม่ต้องคอยพะวงว่าจะมีเงินไม่พออีกต่อไป
มันก็คือ “อิสรภาพทางการเงิน” นี่เอง
เมื่อคุณมีเงินมากพอ คุณจะมีอิสรภาพในการทำสิ่งใดก็ได้ที่อยากทำ โดยไม่มีข้อจำกัดว่า “ต้องไปทำงานทุกวันแม้จะไม่ชอบ” นั่นคือ “อิสรภาพทางการเงิน”
คุณอาจยังทำงานเดิม แต่คุณทำเพราะรักงานที่ทำ ไม่ได้ทำเพราะจำเป็น
“อิสรภาพทางการเงิน” ถูกพูดถึงเยอะมากในหนังสือ พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad, Poor Dad) และ 4-Hour Workweek ที่สอนให้คุณสร้างความมั่งคั่ง แล้วพอถึงจุดหนึ่งก็ใช้เงินทำงานแทนคุณ คนลงทุน vs ไม่ลงทุน ชีวิตจะต่างกันมาก
โทนี่ รอบบินส์ กูรูด้านการเงินที่มีคนติดตามหลายล้านคนทั่วโลก ได้แบ่งอิสรภาพทางการเงินของคุณเป็น 5 ขั้นครับ
เวลาคุณเริ่มสร้างตัว คุณจะเริ่มที่ขั้น 1 ก่อน แล้วค่อยไต่ระดับไปเรื่อย ยิ่งคุณมีอิสรภาพในระดับสูง คุณก็ยิ่งมีชีวิตที่ดีขึ้น ดังนี้ครับ
อิสรภาพทางการเงินระดับที่ 1
Financial Security “ไม่อดตาย”
ในขั้นแรก ขอแค่คุณมีเงินเก็บพอใช้ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินครับ อย่างเช่นในกรณีที่คุณตกงาน ไม่มีรายได้เลย คุณจะยังมีชีวิตต่อไปได้ไหม?
จำนวนเงินเก็บขั้นต่ำสำหรับขั้นที่ 1 ก็ให้คุณเอาค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณมาคูณ 12
นั่นคือเงินเก็บขั้นต่ำที่คุณควรมี เพื่อรับประกันว่าคุณจะยังอยู่ได้ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ช่วงนี้บริหารเงินยังไง?
สำหรับคนที่อยู่ขั้นนี้แล้ว คุณก็ควรสะสมเงินให้งอกเงยต่อไปครับ โดยทุกครั้งที่ได้เงินเดือน อย่าเพิ่งใช้ครับ!
ให้ตัดแบ่งมาเก็บออมไว้ก้อนนึงก่อน แล้วค่อยใช้จ่ายหลังจากเก็บออมแล้ว
กำหนดไว้เลยว่าพอได้เงินเดือนมา จะออม 10%, 20%, 40% แล้วก็ออมให้ได้ตามนั้นก่อนเอาไปใช้จ่าย
ถ้าคุณเอาไปใช้จ่ายก่อนแล้วเหลือค่อยเก็บ สุดท้ายจะไม่ค่อยเหลือครับ เชื่อผม
จุดสำคัญคือ ห้ามเก็บเงินไว้ในบัญชีธนาคารครับ เพราะดอกเบี้ยมันเศร้ามาก
คนที่ลงทุนกับไม่ลงทุน ชีวิตต่างกันมากครับ
คุณต้องเอาเงินไปลงทุนเพื่อให้งอกเงย โดยไปซื้อหุ้นหรือพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากธนาคาร
คุณควรเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับ 6-12 เดือนไว้ในธนาคารก็พอ ส่วนที่เหลือก็เอาไปลงทุนครับ
บิงโกได้สรุปวิธีลงทุนขั้นต้นไว้แล้ว สามารถเข้าไปดูได้เลยครับ
อิสรภาพทางการเงินระดับที่ 2
Financial Vitality “พออยู่ได้”
อิสรภาพทางการเงินระดับนี้ก็คล้ายข้อ 1 ครับ แต่นอกจากคุณจะมีเงินพอค่าใช้จ่ายพื้นฐาน 12 เดือน คุณก็ยังมีเหลือนิดหน่อยเพื่อหาความสุข เช่น จ่ายค่า Netflix หรือไปทานร้านอาหารอร่อยๆ ได้
ในระดับนี้ คุณจะยังต้องทำงานต่อไปครับ แต่คุณจะมั่นคง มีเงินเก็บมากขึ้น และมีเงินพอใช้จ่ายหาความสุขบ้าง
ช่วงนี้บริหารเงินยังไง?
ถ้าคุณอยู่ขั้นนี้ ผมแนะนำให้คุณสะสมเงินให้งอกเงยต่อไปครับ เพราะอีกไม่นานพอคุณไปถึงขั้นถัดไป ชีวิตคุณก็จะสบายแล้ว คุณควรตั้งเป้าว่าจะไปถึงอิสรภาพทางการเงินขั้น 3 ให้ได้ นั่นคือคุณมีเงินเก็บมากพอที่จะเลิกทำงานได้
อย่าลืมนำเงินเดือนมาออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ คนที่มุ่งมั่นมากๆ อาจออมเงินในสัดส่วนที่สูงๆ ไปเลย เช่น ออม 50% หรือ 60%
ถ้าคุณอยากสร้างแรงผลักดันให้ตัวเอง คุณก็อาจตั้งเป้าหมายทางการเงินที่เห็นภาพมากขึ้น
- เช่น จะต้องซื้อคอนโด/อพาร์ทเมนต์ให้ได้สักห้อง
- หรือจะเก็บเงินให้ได้ xxx ล้านบาท
พยายามคิดถึงภาพตัวเองตอนมีชีวิตที่สุขสบายในอนาคตครับ
อิสรภาพทางการเงินระดับที่ 3
Financial Independence “เลิกทำงานได้”
นี่คือจุดที่คุณมีเงินเก็บพอขนาดที่รายได้จากการลงทุน เทียบเท่ารายได้จากงานประจำครับ
คำนวณง่ายๆ คือเงินเก็บของคุณมากกว่า 240 x เงินเดือน
- เช่น ถ้าเงินเดือน 30,000 บาท แล้วคุณมี 7,200,000 บาท คุณก็จะมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว
ถ้าคุณมาถึงขั้นนี้ได้ ผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ นี่คือจุดเปลี่ยนของชีวิต คุณไม่จำเป็นต้องทำงาน ก็มีรายได้พอใช้ได้ตลอดกาล จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
เพราะคุณสามารถใช้ชีวิตโดยอาศัยผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างเดียวได้
ช่วงนี้บริหารเงินยังไง?
พอคุณมาถึงจุดนี้ ชีวิตคุณจะมีตัวเลือกเยอะมาก
คุณเลือกได้ว่าจะลาออก เลิกทำงานวันนี้เลย แล้วเอาเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองรัก เพราะคุณมีรายได้จากการลงทุนมาทดแทนเงินเดือนแล้ว
หรือถ้าคุณชอบงานที่ทำ คุณก็ทำงานต่อไปได้ และคุณจะมีรายได้ 2 เท่าของเงินเดือนด้วย คุณจะเริ่มใช้ชีวิตได้สุขสบายขึ้น
พอคุณอยู่จุดนี้ คุณจะบริหารเงินได้ตามใจมากขึ้นด้วยครับ
ถ้าคุณพอใจกับชีวิตตอนนี้แล้ว คุณก็ใช้เงินได้สบายๆ แบบไม่คิดมาก คุณสามารถเลือกทางเดินชีวิตได้ตามใจชอบ เอาที่พอใจ!
- ทำงานเดิม
- ตั้งธุรกิจของตัวเอง
- ทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ
- เลิกทำงานไปเลย
แต่ถ้าคุณอยากรวยขึ้นไปอีก นั่นคืออยากไปถึงอิสรภาพทางการเงินระดับ 4 (สุขสบายจนวันตาย) คุณก็ต้องเก็บเงินต่อไป แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องเครียดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ขอแค่คุณไม่ฟุ้งเฟ้อ เอาเงินไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เงินมันก็จะเพิ่มขึ้นเอง แล้วในที่สุดคุณก็จะไปสู่ระดับ 4 ครับ
อิสรภาพทางการเงินระดับที่ 4
Financial Freedom “สุขสบายจนวันตาย”
ถ้าคุณมาถึงตรงนี้ แสดงว่าคุณมีรายได้จากการลงทุนมากพอสำหรับจ่ายสิ่งฟุ่มเฟือยต่างๆ ทั้งแบรนด์เนม การเที่ยวต่างประเทศ และไลฟ์สไตล์ที่คุณชอบ
คุณต้องมีเงินแค่ไหน? คิดง่ายๆ ครับ ให้คุณนำค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่อยากใช้ มาคูณ 240 นั่นละครับเงินที่คุณต้องมี ถึงจะอยู่ระดับ “สุขสบายจนวันตาย”
- เช่น ถ้าอยากฟุ่มเฟือยได้เดือน 100,000 บาท คุณจะต้องเก็บให้ได้ 240 x 100,000 = 24,000,000 บาท
ช่วงนี้บริหารเงินยังไง?
ตอนนี้ชีวิตคุณเพียบพร้อมแล้วครับ ถ้าคุณอยากรวยกว่านี้ คุณทำงานเท่าไรก็จะไม่รวยขึ้นแล้ว เพราะคุณมีเงินมากไป ต่อให้เอาเงินเดือนไปเติมใส่กองเงินเก็บ คุณก็ไม่รวยขึ้นนัก
ถ้าคุณอยากรวยขึ้น คุณต้องหาวิธีลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น หรือก่อตั้งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูงเท่านั้นครับ
อิสรภาพทางการเงินระดับที่ 5
Absolute Financial Freedom “ทุกสิ่งที่คุณต้องการ”
สุดท้าย ถ้าคุณรวยมากๆ คุณก็จะมีเงินมากพอจะซื้อทุกสิ่งที่เงินจะซื้อได้
ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่บางทีคุณไม่ต้องรวยมากก็มาถึงจุดนี้ได้ครับ
เพราะคุณแค่อยากซื้อสิ่งที่อยากซื้อ แต่ถ้าคุณไม่ได้อยากได้ของแพงมาก ก็เหมือนคุณซื้อได้ทุกอย่างไปโดยปริยาย
กระทั่งสิ่งที่ฟังดูราคาสูงลิบ จริงๆ มันอาจไม่แพงก็ได้ถ้าคุณมีลูกเล่นในการใช้เงิน
- ถ้าคุณอยากนั่งเรือยอร์ช อาจไม่ต้องซื้อแต่เช่าเอาก็ได้
- ถ้าคุณอยากมีทีมฟุตบอล อาจไม่ต้องเป็นเจ้าของคนเดียว แต่เป็นหุ้นส่วนก็พอ
ช่วงนี้บริหารเงินยังไง?
อยากใช้เงินยังไง แล้วแต่คุณเลยครับ
อย่าลืมออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อที่จะได้อายุยืนแข็งแรง ลดคาร์โบไฮเดรตเช่นแป้งและน้ำตาล ทานเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้เยอะๆ ผลไม้สีม่วงอย่างบลูเบอร์รี่หรือแบล็คเคอแรนท์มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ร่างกายอ่อนเยาว์และต่อต้านมะเร็ง
นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายบ้าง จะได้ใช้เงินได้นานๆ ครับ
และใช้เวลากับคนที่คุณรักเยอะๆ ครับ
มือใหม่เริ่มลงทุนได้ง่ายๆ วันนี้
ถ้าคุณเพิ่งหัดเริ่มต้นลงทุน หรือกำลังสนใจอยากเริ่ม คุณสามารถอ่านขั้นตอนง่ายๆ ที่ผมสรุปไว้ให้แล้วได้เลยครับ
นอกจากนี้ ถ้าคุณอยากลงทุนหุ้น คุณควรศึกษากลยุทธ์ต่างๆ ให้ดี ผมได้สรุปกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่นิยมที่สุด 4 สไตล์ไว้ โดยวิธีที่ผมแนะนำคือการลงทุนแนวเน้นคุณค่าหรือ VI
ลองดูหุ้น 6 ชนิดของปีเตอร์ ลินช์ ว่าคุณชอบหุ้นแนวไหน และถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มหาหุ้นตัวแรกของคุณกันเลย
หรือถ้าคุณอยากหาหนังสือหุ้นมาอ่านเพิ่มเติม ผมได้ลิสต์หนังสือดีๆ ไว้ให้คุณอ่านเรียบร้อยแล้ว
>
Pingback: บิทคอยน์ คริปโต บล็อกเชนคืออะไร ควรลงทุนไหม
Pingback: 4 ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับคนอยากเริ่มต้นลงทุนแต่ไม่รู้เริ่มยังไง
Pingback: ข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง ของการลงทุนแต่ละชนิด - สำนักพิมพ์บิงโก
Pingback: สรุปหนังสือ Think and Grow Rich ตีแผ่ กฏความสำเร็จ ที่ถูกเก็บงำมากว่า 80 ปี
Pingback: สรุปหนังสือ I will teach you to be rich หนังสือที่จะทำให้โค้ชการเงินตกงาน
Pingback: สรุปหนังสือ The 4-Hour Workweek ทำน้อยแต่รวยมาก เลิกรวยตอนแก่
Pingback: สรุปหนังสือ The Richest Man In Babylon อย่าให้ชีวิตคุณจบด้วยประโยค “รู้งี้...”
Pingback: สรุปหนังสือ Rich Dad Poor Dad พ่อรวยสอนลูก | 10 คำสอนของ คนรวย
Pingback: สรุป The Intelligent Investor: หนังสือลงทุนที่ดีที่สุดในโลก (นักลงทุนต้องอ่าน)
Pingback: ลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 4000% ลงทุนในตัวเอง - สำนักพิมพ์บิงโก
Pingback: สรุปโลกแห่งการลงทุน เข้าใจทุกอย่างในบทความเดียว - สำนักพิมพ์บิงโก