ว่ากันว่าชีวิตต่างจากห้องเรียนตรงที่ว่า… ห้องเรียนสอนบทเรียน แล้วจึงให้บททดสอบ
…แต่ชีวิตให้บททดสอบ แล้วค่อยสอนบทเรียน
เมื่อคุณหัดเริ่มลงทุน ไม่มีใครเลยที่ไม่ทำผิดพลาด แต่คนที่เรียนรู้จากความผิดพลาดได้เร็ว จะพลิกกลับมาทำกำไรได้ และประสบความสำเร็จจากการลงทุนได้อย่างยั่นยืน
ถ้าคุณเพิ่งหัดเริ่มต้นลงทุน หรือกำลังสนใจอยากเริ่ม คุณสามารถอ่านขั้นตอนง่ายๆ ที่ผมสรุปไว้ให้แล้วได้เลยครับ นอกจากนี้ ผมได้สรุปกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่นิยมที่สุด 4 สไตล์ไว้ โดยวิธีที่ผมแนะนำคือการลงทุนแนวเน้นคุณค่าหรือ VI
ถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณเองก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แล้วคุณจะพบว่าโอกาสดีๆ มีอยู่มากในต่างประเทศ ผมมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นต่างประเทศ หุ้นอเมริกาให้คุณแล้ว เข้าไปดูกันได้เลยครับ
สำหรับคนที่คิดว่าการลงทุนหุ้นต่างประเทศไกลตัวเกินไป อยากซื้อกองทุนให้เขาไปลงทุนหุ้นต่างประเทศแทนเรา นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดีมากครับ แต่ก่อนหน้านั้น ผมแนะนำให้อ่าน ซื้อกองทุนต่างประเทศยังไง ให้กำไรมากขึ้น 100% ซึ่งผมเขียนไว้ให้คุณโดยเฉพาะเลยครับ
วันนี้เราจะมาดูกับดัก 3 ข้อที่นักลงทุนหน้าใหม่ทำพลาดกันครับ บทเรียนของคุณจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด เพราะผมเจ็บแทนให้คุณแล้ว
ข้อ 1 อย่าเชื่อคนอื่น
ถ้าคุณได้เงิน 1 บาททุกครั้งที่ได้ยินคำโกหกในตลาดหุ้น เพียงปีเดียวคุณจะเก็บเงินได้เป็นล้านเลยครับ
ยิ่งเป็นคำพูดเชียร์หุ้นตัวไหน คุณยิ่งต้องระวัง
บางครั้งคนพูดก็มีผลประโยชน์แอบแฝง
หรือบางคนอาจหวังดี แต่เขาเข้าใจผิด ก็เลยมาบอกคุณผิด เช่น
- ผู้บริหารที่คุยโม้ไว้เยอะเพราะอยากให้ราคาหุ้นขึ้นสูง
- โบรคเกอร์ที่เชียร์หุ้นเพราะเขาได้ค่านายหน้าเวลาคุณซื้อขาย
- นักวิเคราะห์ที่วิเคราะห์ถูกบ้างผิดบ้าง
- ข่าวลือที่คนปล่อยข่าวหวังจะปั่นหุ้น
- เพื่อนนักลงทุนที่หวังดี แต่เขาเข้าใจผิดว่าหุ้นตัวนั้นดี ทั้งที่ไม่ดีจริง
- ฯลฯ
คุณอาจฟังพวกเขาเพื่อเป็นข้อมูล แต่อย่าเชื่อก่อนจะคิดวิเคราะห์เอง
ถ้าคุณอยากลงทุนให้ได้ดี คุณต้องคิดได้ด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นก็ควรซื้อกองทุนให้มืออาชีพบริหารไปเลย
เวลาคุณอ่านบทความ อ่านข่าว อ่านบทวิเคราะห์ หรือฟังใครสักคนในยูทูป เขาจะพูดทั้ง “ข้อเท็จจริง” และ “ความคิดเห็น” คุณต้องสกัดข้อเท็จจริงมาตัดสินใจเอง ส่วนความคิดเห็นก็ฟังหูไว้หู
เขาอาจจะบอกว่า “บริษัท ABC เพิ่งเปิดตัวลิปสติกสีม่วงที่สกัดจากกลีบกุหลาบ คาดว่าจะขายดีแน่ ควรซื้อหุ้นตัวนี้“
ข้อเท็จจริงคือ บริษัท ABC เพิ่งเปิดตัวลิปสติกสีม่วงที่สกัดจากกลีบกุหลาบ นี่คือสิ่งที่คุณใช้เป็นฐานในการคิดได้
ส่วนความคิดเห็นคือ “ขายดีแน่ ควรซื้อหุ้น” ตรงนี้คุณก็รับรู้ไว้ แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อ คุณควรคิดเองจากข้อมูลที่คุณมี จะดีกว่า
ข้อ 2 อย่ามองระยะสั้น
การลงทุนไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร
มันคือมาราธอน
คุณไม่ได้ต้องการลงเงินวันนี้ พรุ่งนี้รวยขึ้น 10 เท่า
ถ้าคุณทำได้จริง ผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ
แต่การลงทุนมักไม่รวยเร็วขนาดนั้น
ถ้าคุณลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คุณจะเจอช่วงที่ปล่อยเช่าไม่ออก ประกาศขายไม่มีคนซื้อ ช็อตเงิน สภาพคล่องมีปัญหา ฯลฯ
ถ้าคุณลงทุนหุ้น ต้องมีสักวันที่คุณเห็นหุ้นตกทั้งกระดาน หรือหุ้นตัวอื่นราคาขึ้นแต่หุ้นของคุณราคาลง
ระหว่างทาง คุณจะเจอปัญหา หรือ “ช่วงตกต่ำ”
แต่นักลงทุนที่ดี ต้องไม่มองเห็นแค่ภาพตรงหน้า คุณต้องมองยาวไปถึงแสงสว่างปลายอุโมงค์
ถ้าคุณมองไม่เห็นอนาคตที่สดใสในระยะยาว แสดงว่าปัญหาของคุณมัน “ร้ายแรง” และคุณอาจต้องตัดใจขายหุ้นขาดทุน
ถ้าคุณซื้อหุ้นแล้วราคาลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่คุณไม่มีแม้เศษเสี้ยวความมั่นใจว่ามันจะขึ้นกลับมา แสดงว่าคุณอาจซื้อหุ้นผิดตัว อย่างนี้ต้องขาย
ในทางกลับกัน ถ้าคุณซื้อหุ้นแล้วราคาลง แต่คุณมั่นใจว่าสักวันมันต้องราคาขึ้นมา 5 เท่า คุณก็สามารถถือหุ้นรอวันนั้นได้ เพราะคุณมั่นใจด้วยเหตุผลบางอย่าง เช่น ธุรกิจกำลังเติบโตเร็ว มีปัจจัยทางเศรษฐกิจเกื้อหนุน ลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฯลฯ คุณเห็นอนาคตที่สดใสรออยู่ คุณก็นอนหลับฝันดี แล้วพอหุ้นราคาลง คุณก็ยิ่งซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่มด้วยความเมามัน
การลงทุนต้องเจอปัญหาระยะสั้น แต่จุดสำคัญคือระยะยาว ถ้าภาพระยะยาวยังดี การลงทุนของคุณต้องผลิดดอกออกผลสักวันครับ
ข้อ 3 จงโลภและจงกลัว
ถ้าคุณอ่านบทความจากอินเทอร์เน็ตบ่อยๆ เขาจะสอนให้คุณเอาอารมณ์ออกจากการตัดสินใจ เพราะอารมณ์จะทำให้คุณตัดสินใจพลาด
คนเรามีความโลภและความกลัว เพราะมันมีประโยชน์ต่อการอยู่รอดของเรา
ความโลภทำให้เราก้าวหน้า ความกลัวทำให้เราไม่ตาย
คุณต้องมีทั้งสองอย่าง จึงจะอยู่รอดได้ในตลาดหุ้น
แต่คนส่วนใหญ่โลภและกลัวผิดจังหวะ
คนเรามักโลภตอนซื้อหุ้น กลัวตอนขายหุ้น นั่นทำให้คนส่วนใหญ่ขาดทุน เพราะพวกเขาใช้ความโลภและความกลัวผิดเวลา
ไม่ใช่ครับ คุณควรโลภตอนขาย และกลัวตอนซื้อต่างหาก
เหมือนที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ พูดไว้ว่า “จงกลัวเวลาที่คนอื่นโลภ และจงโลภเวลาที่คนอื่นกลัว”
ถ้าคุณโลภตอนซื้อหุ้น คุณจะซื้อหุ้นแพง เพราะคุณคิดว่าราคามันขึ้นไปได้เรื่อยๆ อีกเดี๋ยวคุณก็รวย แบบนี้โอกาสขาดทุนสูงมาก ถ้าราคามันไม่ขึ้นอย่างที่คุณคิด คุณก็จะติดหุ้นอยู่กับต้นทุนที่สูงมาก เพราะคุณโลภเกินไปตอนซื้อ
ทางที่ดี ตอนซื้อหุ้นคุณต้องกลัว ความกลัวจะทำให้คุณระมัดระวังก่อนซื้อ คุณควรคิดแล้วคิดอีกว่าคุณซื้อหุ้นแพงไปไหม มีความเสี่ยงอะไรบ้าง จะขาดทุนหนักไหม ฯลฯ ตั้งแต่ก่อนซื้อ มันจะทำให้คุณลดโอกาสขาดทุนและเพิ่มโอกาสทำกำไร
ส่วนตอนขายหุ้น คนส่วนใหญ่มักกลัว…กลัวหุ้นลงก็เลยรีบขาย พวกเขาจึงขายตอนที่กำไรน้อยหรือตอนที่หุ้นลงหนัก
แต่ที่จริง ตอนขายหุ้นคุณต้องโลภ เพราะอย่าลืมว่าตอนซื้อคุณซื้อเพราะคิดว่ามันจะขึ้น (ถ้าคุณไม่ได้คิดแบบนั้นตั้งแต่ตอนซื้อ แสดงว่ากลยุทธ์คุณผิดแล้ว) คุณต้องรอให้มันขึ้นจนถึงที่สุดก่อนค่อยขาย
- ถ้าคุณลงทุนแบบ VI แสดงว่าคุณซื้อหุ้นที่ดี พื้นฐานมั่นคง กำไรเติบโต ราคาก็น่าจะขึ้นไปเรื่อยๆ คุณจึงไม่ควรรีบขายเมื่อราคาขึ้นมานิดเดียว
- ถ้าคุณซื้อขายระยะสั้น คุณควรรอให้ราคาไปถึงเป้าหมายก่อนค่อยขาย อย่ารีบขายก่อนเพื่อกำไรเล็กน้อย
เวลาเราลงทุน ไม่มีคำว่าเท่าทุนครับ
คุณไปได้สองทาง ไม่กำไรก็ขาดทุน ดังนั้นถ้าคุณถอยตั้งแต่ได้กำไรนิดเดียว แล้วยอมขาดทุนหนักเวลาพลาด สุดท้ายโดยรวมคุณก็จะขาดทุน เวลาคุณกำไรจึงต้องกำไรให้มาก เพื่อเตรียมไว้ชดเชยเวลาคุณพลาดด้วย
เริ่มต้นลงทุนหุ้นต่างประเทศเพื่อโอกาสที่ดีกว่า
ต้นไม่ที่ร่มรื่นย่อมเริ่มจากเมล็ดพันธุ์ที่ดี การลงทุนที่ดีจึงอยู่ในเศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโต มีนวัตกรรม และมี dynamics สูง
แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตช้าลงมาก คนไทยเกิดน้อยลง สังคมกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ใครที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจจะพอรู้ว่า “มืดมน” นักลงทุนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะเซียนหุ้นที่เข้าใจเรื่องนี้ จึงเริ่มเลี่ยงไปลงทุนต่างประเทศกันมากขึ้น
ถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณเองก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แล้วคุณจะพบว่าโอกาสดีๆ มีอยู่มาก ผมมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแล้ว (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าสูงสุด $1000 ด้วย)
สำหรับคนที่คิดว่าการลงทุนหุ้นต่างประเทศไกลตัวเกินไป อยากซื้อกองทุนให้เขาไปลงทุนหุ้นต่างประเทศแทนเรา นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดีมากครับ แต่ก่อนหน้านั้น ผมแนะนำให้อ่าน ซื้อกองทุนต่างประเทศยังไง ให้กำไรมากขึ้น 100% ซึ่งผมเขียนไว้ให้คุณโดยเฉพาะเลยครับ
เรียนคอร์สลงทุน “นักลงทุนมือหนึ่งของโลก”
อยากศึกษาเรื่องการลงทุนแต่เริ่มไม่ถูก?
บิงโกมีคอร์สสอนลงทุนที่จะคุณอาจสนใจ คอร์สนี้จะสอนคุณตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูง มือใหม่เรียนจบก็พร้อมลงทุนจริงได้เลย
คอร์สนี้ถูกออกแบบให้พิเศษกว่าคอร์สลงทุนทั่วไป เพราะมาจากหนังสือลงทุนของเซียนหุ้นระดับโลก ทั้งวอร์เรน บัฟเฟตต์, ปีเตอร์ ลินช์, เบนจามิน เกรแฮม, ดร.นิเวศน์ และอื่นๆ จนเหมือน “นักลงทุนระดับโลกมาสอนคุณเอง” ทุกเล่มที่เราคัดมาคือหนังสือลงทุนที่ดีที่สุด ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็น “ของจริง” และจะร่นเวลาให้คุณลงทุนได้เก่งกาจอย่างรวดเร็ว