คนส่วนใหญ่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมี “หนี้” เพราะเรามีความจำเป็นในชีวิตและพื้นฐานครอบครัวแตกต่างกันไป บางคนมีหนี้รถ หนี้บัตรเครดิต บางคนก็มีหนี้สินเชื่อธุรกิจ หนี้บ้าน ซึ่งหนี้แต่ละตัวก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป
ปัญหาหนี้สินจึงกลายเป็น “ปัญหาใหญ่” ที่คอยสร้างบรรยากาศเครียดๆ ให้อยู่รอบตัวเราตลอดเวลา วันนี้พี่วัวเลยขอแนะนำ 2 เทคนิคกำจัดหนี้ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลกมาฝากกัน ใครที่ยังคิดไม่ตกว่าจะหาทางออกจากปัญหาหนี้อย่างไรดี? ฉันมีหนี้หลายตัวแล้วต้องเคลียร์ตัวไหนก่อนหลัง? ลองนำเทคนิคทั้ง 2 นี้ ไปปรับใช้กันได้เลย
2 เทคนิคแก้หนี้จะมีชื่อเรียกเท่ๆ ให้เราจำได้ง่ายๆ โดยอ้างอิงจากรูปลักษณ์ของมัน นั่นคือ
1.แก้หนี้แบบหิมะถล่ม (avalanche)
2.แก้หนี้แบบลูกบอลหิมะ (snowball)
เทคนิคแก้หนี้แบบหิมะถล่ม (avalanche)
ก่อนอื่นให้ลองนึกภาพหิมะถล่มดู หิมะที่ทับถมกันหนาแน่นเป็นจำนวนมหาศาลจะค่อยๆ ถล่มลงมาจากยอดเขาด้านบนดังโครม!! พริบตาเดียวทุกอย่างเบื้องล่างก็จะราบเป็นหน้ากลอง มองเห็นแต่กองหิมะเต็มไปหมด
เปรียบเปรยเหมือนเราต้องการให้หิมะถล่มจากยอดบนสุดลงมาด้านล่าง เทคนิคแรกนี้จึงเน้นปิดหนี้ที่คุณโดนคิดดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน โดยไม่ต้องไปสนใจยอดเงิน
ตัวอย่างเช่น พี่วัวมีหนี้ A 15,000 บาท โดนดอกเบี้ย 7% หนี้ B 20,000 บาท โดยดอกเบี้ย 15% หนี้ C 40,000 บาท โดนดอกเบี้ย 5%
หลักการของเทคนิคแรกนี้บอกให้เน้นปิดหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน แปลว่าพี่วัวต้องปิดหนี้ B 20,000 บาท (ดอกเบี้ยสูงที่สุดในหนี้ทั้งหมดคือ 15%) เป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยไล่ระดับลงมาที่หนี้ A สุดท้ายคือหนี้ C
สิ่งที่เราต้องทำก็คือ จ่ายหนี้ทุกก้อนแบบขั้นต่ำให้หมด จากนั้นให้เอาส่วนต่างที่เหลือที่เราจ่ายไหวในแต่ละเดือนมาจ่ายหนี้ B เพิ่มเข้าไป ถ้าเดือนไหนได้เงินพิเศษเพิ่มเติมจากอาชีพเสริมหรืออื่นๆ ก็แบ่งมาจ่ายหนี้ B เพิ่มอีกเช่นเคย
เมื่อเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในทุกเดือน เราจะค่อยๆ ลดยอดหนี้ดอกเบี้ยแพงลงจนเคลียร์ได้ในที่สุดครับ
เทคนิคแก้หนี้แบบลูกบอลหิมะ (snowball)
คราวนี้ลองนึกภาพเราค่อยๆ กลิ้งบอลลูกหิมะลูกเล็กๆ พอกลิ้งไปเรื่อยๆ มันก็โตขึ้นๆ จนกลายเป็นลูกใหญ่ ชนต้นไม้ดังโครม!!
เปรียบเปรยเหมือนเราจะค่อยๆ สะสมหิมะจากเล็กๆ ให้กลายเป็นลูกใหญ่จะได้ชนกับปัญหาหนี้ได้เต็มที่ เทคนิคนี้จึงเน้นปิดหนี้ที่มียอดเงินน้อยที่สุดก่อน โดยไม่ต้องสนใจอัตราดอกเบี้ย
จากตัวอย่างเดิม พี่วัวมีหนี้ A 15,000 บาท โดนดอกเบี้ย 7% หนี้ B 20,000 บาท โดยดอกเบี้ย 15% หนี้ C 40,000 บาท โดนดอกเบี้ย 5%
หลักการของเทคนิคที่สองบอกให้เน้นปิดหนี้ก้อนเล็กที่สุดก่อน แปลว่าพี่วัวต้องปิดหนี้ A 15,000 บาท เป็นอันดับแรก แล้วค่อยไล่ไปหนี้ B สุดท้ายคือหนี้ C
สิ่งที่เราต้องทำจะคล้ายเดิมเลยคือ จ่ายหนี้ทุกก้อนแบบขั้นต่ำให้หมด จากนั้นให้เอาส่วนต่างที่เหลือที่เราจ่ายไหวมาจ่ายหนี้ A เพิ่มเข้าไป ถ้ามีเงินเพิ่มก็แบ่งมาจ่ายหนี้ A ก่อนเช่นเคย
หนี้ A เป็นหนี้ที่มียอดไม่สูงนัก เราจะปิดหนี้ตัวนี้ได้ค่อนข้างเร็ว แล้วค่อยไล่ไปหาหนี้ตัวถัดไป
เทียบข้อดีข้อเสียของทั้งสองเทคนิคแก้หนี้
เทคนิคแรก แก้หนี้หิมะถล่มเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาวได้ดีกว่า แปลว่าโดยรวมทั้งหมดตอนปิดทุกหนี้จบ เทคนิคนี่จะช่วยเซฟเงินเราได้มากกว่าครับ
เหตุผลที่ประหยัดได้มากกว่าคือ ดอกเบี้ยยิ่งยิ่งแพงเวลาเราโดนคิดดอกก็ยิ่งบานปลาย ถ้ายิ่งปล่อยไว้นาน ยอดหนี้ก็จะค่อยๆ สูงขึ้น ลองนึกภาพหนี้บัตรเครดิตดูครับ หนี้พวกนี้คิดดอกเบี้ยเราต่อปีเกิน 20% ด้วยซ้ำไป
เทคนิคสอง แก้หนี้ลูกบอลหิมะเป็นวิธีที่ช่วยสร้างความมั่นใจและเสริมพลังใจให้เราได้เยอะมาก เราจะใจฟูขึ้นทันทีที่ได้ปิดหนี้ก้อนแรกสำเร็จ
เหตุลก็คือ เราเน้นผิดหนี้ก้อนเล็กที่สุดก่อน ดังนั้นเราจึงใช้เวลาไม่นานเลยก็สามารถปิดได้หนึ่งก้อนแล้ว ยามที่เราแก้ปัญหาหนทางสำเร็จ เราก็ย่อมใจฟูขึ้น มีพลังอยากสู้ต่อไปโดยธรรมชาติ
ส่วนตัวพี่วัวตัดสินไม่ได้เลยว่าเทคนิคไหนดีกว่ากัน เพราะทั้งคู่ต่างมีจุดเด่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เทคนิคแรกเน้นเซฟเงิน แต่เราอาจเสียเวลานานหน่อยกว่าจะปิดก้อนแรกสำเร็จ เทคนิคสองเน้นความเร็ว แต่เราอาจต้องยอมเสียเงินมากหน่อยกว่าจะจบหนี้ได้ทุกก้อน
เอาเป็นว่าทั้งคู่ต่างเป็นเทคนิคที่ดี ใช้ได้ผลจริง ช่วยแก้ปัญหาหนี้ให้เราได้ ดังนั้นมาเลือกใช้ตามที่แต่ละคนชอบกันได้เลย