“ค่าความนิยม” (Goodwill) คืออะไร จะวิเคราะห์ยังไง?
ค่าความนิยมเป็นสินทรัพย์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในงบดุล โดยงบดุลเป็นงบการเงิน 1 ใน 3 ชนิดหลัก คุณอาจสนใจ วิธีอ่านงบการเงินง่ายๆ สำหรับมือใหม่ ซึ่งเป็นภาพที่ใหญ่กว่า
วันนี้เราจะมาดูกันครับว่าค่าความนิยมนี้คืออะไร แล้วมันสำคัญ (หรือไม่สำคัญ) ยังไง? ทำไมบางทีก็มีในงบการเงิน บางทีก็ไม่มี
นอกจากนี้ คนที่อยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศ ผมมีบทความแนะนำวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแล้ว (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าถึง $1000 ด้วย)
เรามาเริ่มรู้จักค่าความนิยมกันดีกว่าครับ
ค่าความนิยมคืออะไร
ค่าความนิยมเป็นสินทรัพย์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการบันทึก “คุณค่าที่จับต้องไม่ได้” ของธุรกิจออกมาเป็นตัวเงิน เช่น แบรนด์ ความน่าเชื่อถือ ฯลฯ
แต่ในเมื่อมันจับต้องไม่ได้ แล้วคุณสงสัยไหมครับว่าคนทำงบเขาใช้อะไรตัดสินว่า “ค่าความนิยม” ควรเป็นเท่าไหร่?
หรือว่าจู่ๆ เขานั่งเฉยๆ แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า “บริษัทเรานี่แบรนด์แข็งแกร่งจริง แหม่! ลงบัญชีว่าค่าความนิยมสักแสนล้านดีกว่า”
ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ค่าความนิยมจะเกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อกิจการในราคาที่สูงกว่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัทลูก
เช่น A ซื้อกิจการ B ในราคา 2000 ล้านบาท แต่ B มีสินทรัพย์สุทธิแค่ 1500 ล้าน
ดังนั้น พอ A ซื้อ B เสร็จ เขาก็จะเสียเงินไป 2000 ล้านเพื่อให้ได้สินทรัพย์ 1500 ล้านมา จึงเหลือ “ช่องว่าง” อีก 500 ล้านที่ขาดไป
เพื่อเป็นการทำให้ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น ตามกฎทางบัญชี จึงมีการใส่สินทรัพย์ที่เรียกว่า “ค่าความนิยม” เข้าไป สมการจึงดุลกันพอดี (ทำความเข้าใจกับกฎทางบัญชีนี้ได้ในวิธีอ่านงบดุลง่ายๆ สำหรับมือใหม่)
ค่าความนิยมตก
ปกติค่าความนิยมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ลงบัญชีไว้แค่ไหนก็ค้างไว้แบบนั้น แต่บางครั้งเขาก็จะปรับสักหน่อย
ถ้าบริษัทปรับค่าความนิยมให้น้อยลง (เรียกว่าการ “ตัดจำหน่าย”) ก็จะเกิดเป็นค่าใช้จ่ายขึ้น ทำให้กำไรในปีนั้นลดลง หรือกลายเป็นขาดทุนได้
วิธีวิเคราะห์ค่าความนิยม
ค่าความนิยมเป็นเหมือน “ผลพลอยได้” ที่เกิดจากการซื้อกิจการ มันไม่ได้มีหลักการอะไรรองรับมาก ถ้าบริษัทจ่ายเงินซื้อแพงก็จะลงค่าความนิยมไว้เยอะ แต่จ่ายถูกก็ลงไว้น้อย
แถมพอลงบัญชีไว้ก็มักค้างไว้แบบนั้น ค่าความนิยมจึงมักไม่ได้สะท้อนสินทรัพย์ของบริษัทที่แท้จริง
นักลงทุนบางคนจะวิเคราะห์บริษัทด้วยการมองข้ามค่าความนิยมไปเลย (ทำเหมือนไม่มี) ซึ่งจะทำให้เห็นฐานะทางการเงินของบริษัทที่ชัดเจนขึ้น
เรียนคอร์สลงทุน “นักลงทุนมือหนึ่งของโลก”
อยากศึกษาเรื่องการลงทุนแต่เริ่มไม่ถูก?
บิงโกมีคอร์สสอนลงทุนที่จะคุณอาจสนใจ คอร์สนี้จะสอนคุณตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูง เรียนจบพร้อมลงทุนจริงได้เลย เหมือน “นักลงทุนระดับโลกมาสอนคุณเอง” โดยใช้วิธีของนักลงทุนชั้นนำทั่วโลกมาสอนคุณ ทั้งวอร์เรน บัฟเฟตต์, ปีเตอร์ ลินช์, เบนจามิน เกรแฮม และอื่นๆ ซึ่งจะร่นเวลาให้คุณลงทุนได้เก่งกาจอย่างรวดเร็ว
เริ่มต้นลงทุนหุ้นต่างประเทศเพื่อโอกาสที่ดีกว่า
ต้นไม่ที่ร่มรื่นย่อมเริ่มจากเมล็ดพันธุ์ที่ดี การลงทุนที่ดีจึงอยู่ในเศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโต มีนวัตกรรม และมี dynamics สูง
แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตช้าลงมาก คนไทยเกิดน้อยลง สังคมกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ใครที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจจะพอรู้ว่า “มืดมน” นักลงทุนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะเซียนหุ้นที่เข้าใจเรื่องนี้ จึงเริ่มเลี่ยงไปลงทุนต่างประเทศกันมากขึ้น
ถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณเองก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แล้วคุณจะพบว่าโอกาสดีๆ มีอยู่มาก ผมมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแล้ว (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าสูงสุด $1000 ด้วย)