“ทองคำ” เป็นหนึ่งในการลงทุนที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ แต่มันกลับมีทั้งคนรักและคนเกลียด
นักลงทุนบางคนชอบทองคำ เพราะว่ามีไว้แล้วอุ่นใจดี แต่นักลงทุนบางคนมองว่าทองคำก็แค่ก้อนโลหะที่ไม่มีประโยชน์ มันจึงเป็นการลงทุนที่ห่วยที่สุด ด้วยแนวคิดที่ต่างกันอย่างสุดขั้วเช่นนี้ คุณควรเชื่อทางไหนกันแน่?
วันนี้เราจะมาเจาะลึกการลงทุนในทองคำกัน ทั้งข้อดีและข้อเสีย แล้วสรุปคุณควรลงทุนทองคำหรือไม่?
ก่อนจะไปกันต่อ คนที่สนใจหุ้น ผมอยากให้ลองเข้าไปอ่านกลยุทธ์ลงทุนหุ้น 4 ชนิดด้วยครับ เพื่อที่คุณจะได้หาสไตล์การลงทุนที่เหมาะกับตัวเองที่สุด นอกจากนี้ คนที่อยากรู้วิธีลงทุนดีๆ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ลึกซึ้งทุกประเด็น บิงโกมีคอร์สลงทุนดีๆ ซึ่งจะสอนวิธีลงทุนอย่างละเอียด (สอนตั้งแต่พื้นฐานจนลงทุนเก่ง) และจะช่วยให้คุณสร้างความมั่งคั่งได้ตามที่หวัง
นอกจากนี้ ถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณเองก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แล้วคุณจะพบว่าโอกาสดีๆ มีอยู่มากจริงๆ ผมมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแล้ว เข้าไปดูกันได้เลยครับ
ทำไมคุณจึงควรซื้อทอง
เรามาดูกันก่อนว่าทำไมนักลงทุนบางคนชอบซื้อทอง
แต่อย่าลืมนะครับว่าเหตุผลเหล่านี้เป็นแค่ด้านเดียวของเหรียญ นักลงทุนบางคนก็ไม่สนใจทองคำเลย ด้วยเหตุผลที่มีน้ำหนักไม่แพ้กัน ผมจะหยิบมาให้คุณได้ดูทั้งสองด้าน เพื่อให้คุณเห็นภาพกว้างและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ว่าคุณจะปรับใช้ทองคำกับการลงทุนของตนยังไง
แล้วสุดท้าย ด้านล่างสุดผมจะบอกคุณอีกทีว่าผมคิดยังไงกับทองคำ ผมชอบหรือผมเกลียด ด้วยเหตุผลอะไร เพื่อช่วยคุณตัดสินใจอีกทีนึง
สวรรค์อันปลอดภัย
ทองคำได้ชื่อว่าเป็น “Safe Haven” หรือ “สวรรค์อันปลอดภัย” เพราะเวลาตลาดหุ้นถล่มลงมาหนัก ราคาทองคำมักไม่ร่วงตาม และบางครั้งยังสวนกลับไปได้อีกด้วย
ปกติเวลาเราลงทุน ทุกคนก็จะมีวิธีบริหารความเสี่ยงในแบบของตัวเองใช่ไหมครับ? บางคนใช้วิธีเก็บเงินบางส่วนไว้ในธนาคาร บางคนใช้วิธีซื้อตราสารหนี้เก็บไว้บางส่วน และบางคนก็มีจุดขาย “ตัดขาดทุน” (cut loss) เวลาหุ้นราคาลงมาเยอะ
การซื้อทองคำก็เป็นวิธีบริหารความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะในเมื่อราคาทองคำมักยืนได้เวลาหุ้นลง ดังนั้นถ้าเราซื้อหุ้นบ้างทองคำบ้าง เราก็น่าจะมีความเสี่ยงน้อยลง อย่างน้อยถ้าตลาดหุ้นเป็นขาลง เราก็ยังมีทองคำนี่แหละที่ราคาไม่ลง และจะคอยช่วยเหลือเรายามยากลำบาก
ข้อดีของการใช้ทองคำลดความเสี่ยงก็คือ
- ทองคำช่วยลดความเสี่ยงได้ดี ในขณะที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคารและตราสารหนี้ ซึ่งให้ดอกเบี้ยน้อยมาก
- การถือทองคำจะง่ายและสบายใจ เพราะเราถือไปได้ยาวๆ ต่อให้ถือแล้วราคาทองลงมา เราก็รอได้โดยไม่ต้องรีบขายขาดทุน สุดท้ายราคาทองคำก็จะสูงกลับขึ้นมาเอง
แต่ข้อเสียของการใช้ทองคำลดความเสี่ยงคือ
- ถึงจะบอกว่าราคาทองยืนได้ ถ้าตลาดหุ้นถล่มลงมาแรงๆ ทองคำก็ยืนไม่อยู่เหมือนกันครับ ก็จะลงไปกับเขาด้วย (แต่อาจลงไม่แรงเท่าหุ้น)
- ถ้าตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ทองคำอาจจะลงสวนนะครับ เพราะมันมักขึ้นลงสลับกับหุ้น
ทนทานต่อเงินเฟ้อ
ทองคำเป็นทรัพย์สินที่ปกป้องคุณจากเงินเฟ้อ (เงินเฟ้อคือการที่สิ่งของต่างๆ ราคาแพงขึ้นตลอดเวลาช้าๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว แต่พอนานเข้า จะกลายเป็นว่าทุกอย่างมีราคาสูงขึ้นหลายเท่า)
พูดง่ายๆ คือ ในระยะยาว ราคาทองคำจะสูงขึ้นตามเงินเฟ้อ เราจึงไม่ต้องกลัวว่ารัฐบาลจะพิมพ์เงินออกมาจนทรัพย์สินของเราเสื่อมมูลค่า ยิ่งเงินเฟ้อราคาทองก็ยิ่งสูง คุณจึงอุ่นใจได้ว่าทองที่ซื้อไว้จะ “เก็บรักษามูลค่า” (store of value) ของตัวเองได้ ต่างจากเงินกระดาษ (เช่นธนบัตรหรือเงินฝากธนาคาร) ที่จะไร้ค่าเมื่อเงินเฟ้อแรงๆ
ของมันมีจำกัด Limited Edition
ทองคำในโลกมีจำกัด แต่มนุษย์โลกและสิ่งที่ขาดแคลนย่อมมีราคาสูงขึ้น
ผมขอให้คุณคิดง่ายๆ ว่าราคาสิ่งของทุกอย่างบนโลกนี้มันขึ้นอยู่กับอุปสงค์-อุปทาน (จำนวนของ vs ความต้องการ) แต่ในเมื่อทองคำมีจำนวนจำกัด ในขณะที่มนุษย์โลกมีจำนวนมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นราคาทองก็ต้องสูงขึ้นตามจำนวนมนุษย์ที่เพิ่มขึ้น เหมือนสิ่งของทุกอย่างที่ขาดแคลน
เมื่อก่อนเราคิดว่าทองคำบาทละ 2,000 บาทนับว่าแพง แต่ปัจจุบันเราเห็นทองคำบาทละ 20,000-30,000 เป็นเรื่องธรรมดา อีกไม่นานเราอาจได้เห็นทองคำบาทละแสนก็ได้ เพราะยิ่งเวลาผ่านไป คนก็ยิ่งเยอะ ความต้องการก็ยิ่งเพิ่ม และไปดันราคาทองให้สูงขึ้นอีก
นอกจากนี้ คนจีนและอินเดียยังเป็นสองชาติที่ชอบสะสมทอง เมื่อสองชาตินี้ร่ำรวยขึ้น พวกเขาก็ชอบซื้อทองมาเก็บเอาไว้ ราคาทองคำก็เลยสูงขึ้นไม่หยุด
ยิ่งพิมพ์เงิน ราคาทองยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ธนาคารกลางประเทศต่างๆ จะต้องเก็บทรัพย์สินไว้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ
ซึ่งตามหลักแล้ว เขามีทางเลือกไม่มาก ถ้าไม่ซื้อพันธบัตรก็ต้องซื้อทองคำมาเก็บไว้
แต่ในโลกปัจจุบันที่อเมริกาพิมพ์เงินออกมาไม่จำกัด ประเทศต่างๆ ที่ขายสินค้าให้อเมริกาจึงได้เงินดอลลาร์มาเก็บเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศพวกนี้ไหลมากองไว้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่ไป ส่วนหนึ่งจึงต้องไปซื้อทองคำ และดันให้ราคาทองคำสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แล้วทำไมคุณจึง “ไม่ควร” ซื้อทอง
ถ้าคุณมองทองคำเป็นการลงทุน คุณจะไม่ดูแค่ราคาทอง คุณจะดูว่าทองคำที่คุณซื้อมา จะสร้างคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจมากขึ้นไหม
นักลงทุนแนวเน้นคุณค่าหรือ Value Investors หลายคนถือคติไม่ซื้อทองคำ เพราะทองคำไม่ได้สร้างผลผลิตอะไรให้สังคม ไม่มีค่าใดๆ กับมนุษย์เรา มันเป็นแค่ก้อนโลหะที่เราเก็บไว้ดูเล่น ทองคำจึงเป็นการลงทุนที่ไม่มีประโยชน์ (อ่านหลักการลงทุน VI อย่างละเอียดได้ที่นี่)
ปรมาจารย์ VI วอร์เรน บัฟเฟตต์ เปรียบเทียบทองคำไว้ว่า ถ้าเขาเอาเงินไปลงทุนซื้อทองคำเก็บไว้ 100 ปี เขาจะต้องหาที่เก็บทองคำ และจ้างคนมาคอยเฝ้า เมื่อผ่านไป 100 ปีเขาก็จะได้ก้อนโลหะขนาดเท่าเดิม เสียเวลาไปโดยไม่ได้อะไร
แต่ถ้าเขาเอาเงินนั้นไปซื้อฟาร์มหรือที่ดิน เมื่อเวลาผ่านไป 100 ปี ที่ดินเหล่านั้นจะสร้างผลผลิตมาเลี้ยงคนได้เป็นหมื่นเป็นแสน สร้างคุณประโยชน์เชิงเศรษฐกิจได้มากมาย
ถ้าเขาเอาเงินนั้นไปซื้อหุ้นบริษัทน้ำมัน เมื่อเวลาผ่านไป 100 ปี ก็จะมีน้ำมันออกมาเป็นแสนแกลลอนให้เราใช้ประโยชน์ เหนือกว่าก้อนทองคำมาก
นักลงทุนแนวเน้นคุณค่าหรือ VI หลายคนจึงไม่ซื้อทองคำ และมองว่ามันเป็นการลงทุนที่ไร้ประโยชน์
มุมมองของใครถูกต้องนั้น คงบอกไม่ได้ เพราะล่าสุดวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็หันมาซื้อหุ้นเหมืองทองคำหลังเห็นรัฐบาลอเมริกาพิมพ์เงินออกมาเต็มพิกัด (สงสัยมองว่าจะเกิดเงินเฟ้อจากการพิมพ์เงิน)
คุณจะลงทุนในทองคำได้อย่างไร
แบ่งกว้างๆ จะมี 2 กลยุทธ์สำหรับลงทุนในทองคำครับ
- ใช้เป็นตัวลดความเสี่ยง
- เล่นเก็งกำไร
1. ใช้ทองคำลดความเสี่ยง
ปกติคนที่ลงทุนหุ้น จะต้องทนความผันผวนของตลาดหุ้นอย่างมาก ต่อให้หุ้นของคุณดี มันก็อาจราคาลงได้ในระยะสั้น แต่ในเมื่อทองคำมักราคาขึ้นสวนกับตลาดหุ้น ก็เลยมีคนถือทองคู่กับหุ้นซะเลย ต่อให้หุ้นลง เราก็ยังมีทองคำที่ราคาสูงขึ้นมาช่วยไว้ได้
วิธีการก็คือ ให้แบ่งเงินลงทุนของเรา ส่วนหนึ่งซื้อหุ้น อีกส่วนซื้อทอง
แล้วสมมุติหุ้นลง เราก็จะขายทองมาช้อนซื้อหุ้นในราคาถูก ซื้อเสร็จก็รอสักพัก แล้วพอหุ้นขึ้นกลับมา เราก็ขายหุ้นบางส่วน เพื่อโยกเงินกลับมาซื้อทองคำใหม่
ดังนั้น คุณจะสังเกตว่ามีการใช้ความผันผวนของตลาดหุ้นให้เป็นประโยชน์ เราจะสามารถซื้อหุ้นในราคาต่ำ มาขายในราคาสูงได้ ทำซ้ำๆ แบบนี้เก็บกำไรวนไปครับ
2. เก็งกำไรกับทองคำ
อย่างที่ผมเล่าไป ถ้าคุณมองจากมุมมองของนักลงทุนแนวเน้นคุณค่าหรือ Value Investor ทองคำเป็นการลงทุนที่ไม่มีประโยชน์
ถ้าคุณจะลงทุนในทองคำ คุณจึงต้องเก็งกำไรหน่อยๆ โดยวิธีเก็งกำไรก็มีหลากหลายกลยุทธ์ คุณจะดูกราฟก็ได้ แต่วันนี้ผมขอเสนอกลยุทธ์เก็งกำไรทองคำจากปัจจัยทางเศรษฐกิจนะครับ
- ซื้อทองเมื่ออเมริกาพิมพ์เงิน เวลารัฐบาลอเมริกาพิมพ์เงินเยอะๆ เงินส่วนหนึ่งจะถูกนำไปซื้อทอง ดันราคาทองให้สูงขึ้น เราก็แค่ไปซื้อทองคำดักไว้ก่อน
- ซื้อทองเมื่อคิดว่าหุ้นจะตก ราคาทองมักสวนทางกับราคาหุ้น คุณจึงสามารถซื้อทองเมื่อคิดว่าหุ้นจะตก
- ซื้อทองเมื่อคิดว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าหรือเงินเฟ้อสูง ทองคำจะขึ้นเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าหรือเงินเฟ้อสูง ถ้าคุณเก็งว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ซื้อทองคำได้เลย
สรุปแล้ว… คุณควรซื้อหรือไม่ซื้อทองคำ?
คุณจะเห็นว่าทองคำนั้นมีทั้งเหตุผลที่ควรและไม่ควรซื้อ ซึ่งคุณจะเลือกเชื่อทางไหนนั้น ก็ขึ้นกับมุมมองและวิธีลงทุนของคุณด้วย ข้อดีของทองคำก็คือ มันมักขึ้นสวนตลาดหุ้น ทนทานต่อเงินเฟ้อ และมีจำนวนจำกัด แต่ข้อเสียก็คือมันไม่ได้สร้างคุณค่าให้ชีวิตเรา ทองคำจึงเป็นการลงทุนที่ตัดสินใจยากว่าจะซื้อหรือไม่
โดยส่วนตัว ถ้าคุณจะซื้อทองคำ ผมมองว่า…
- ไม่ควรซื้อทองคำเป็นการลงทุน
- สามารถซื้อได้ แต่ต้องคิดว่ามันคือการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น
ถ้าคุณย้อนกลับไปดู “เหตุผล” ของการซื้อทองคำดีๆ คุณจะพบว่าทุกข้อจะเล่นอยู่กับการที่ว่า “จะมีคนมาซื้อต่อในราคาที่สูงขึ้น” ด้วยแรงจูงใจต่างๆ กัน จนเป็นแรงซื้อที่มากพอจะดันให้ราคาสูงขึ้น หรือพูดอีกแง่ คุณกำลังคาดการณ์ตลาดหรือจิตใจของนักลงทุนคนอื่นๆ อยู่
นี่ไม่ได้แปลว่าคุณไม่ควรซื้อทองคำเลย เพียงแต่ในเมื่อมันไม่มีเหตุผลว่า “ทำไมทองคำที่คุณซื้อมาจะมีคุณค่าสูงขึ้นในอนาคต” คุณก็ไม่ควรมองมันเป็นการลงทุน แต่มองเป็นการซื้อขายระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรดีกว่า คุณซื้อเพราะคิดว่ามันจะขึ้น แล้วพอขึ้นเสร็จก็ต้องรีบขายทำกำไร
หลายคนคิดว่าจะซื้อทองคำเก็บไว้ 10-20 ปี หรือกระทั่ง 30 ปี แต่จากสถิติอันยาวนาน (หลายร้อยปี) ถ้าเราซื้อทองคำเก็บไว้นานแบบนั้น ราคาจะขึ้นช้ากว่าการลงทุนอื่นๆ เช่นหุ้น คุณเอาเงินไปซื้อกองทุนหุ้นจะได้ผลตอบแทนเยอะกว่า และมีคนบริหารจัดการให้เราสบายๆ (อ่านวิธีเลือกซื้อกองทุนได้เลยครับ)
พอซื้อทองคำเสร็จ อย่านิ่งเฉย ต้องบริหารภาพรวมการลงทุนด้วย
ทองคำเป็นแค่การลงทุนชนิดหนึ่งเท่านั้น คุณสามารถซื้อทองคำได้ แต่ทองคำเป็นแค่การลงทุนเสริมเท่านั้น มันไม่ใช่ตัวหลักในการลงทุน (การลงทุนหลักควรอยู่ที่หุ้น เงินสด และตราสารหนี้)
ดังนั้น การลงทุนทองคำจึงไม่สามารถดูแค่ทองคำอย่างเดียวได้ คุณต้องดูภาพรวมการลงทุนทั้งหมด แล้วใช้ทองคำคอยส่งเสริมการลงทุนชนิดอื่น เช่น ใช้ทองคำลดความเสี่ยง หรือใช้เก็งกำไรระยะสั้น ถ้าคุณซื้อทองคำโดยไม่สนใจการลงทุนตัวอื่นเลย ผลลัพธ์ย่อมออกมาไม่ดีครับ
ความรู้หลักในการลงทุนที่คุณควรศึกษาให้ดีคือ หุ้น และ การแบ่งพอร์ตการลงทุน (จะแบ่งเงินไปลงทุนอย่างอื่นนอกจากหุ้นอย่างไร) ซึ่งผมได้สรุปหนังสือลงทุนดีๆ ที่ควรอ่าน ให้คุณแล้วครับ
ความรู้ที่ครอบคลุมที่สุดในการลงทุนมักอยู่ในหนังสือ เพราะหนังสือเป็นช่องทางที่เราจะเข้าถึงแนวคิดในการลงทุนของนักลงทุนชั้นนำของโลกได้ง่ายที่สุด ไม่มีนักลงทุนระดับโลกคนไหนจะมาอธิบายเทคนิคของตัวเองอย่างละเอียดในยูทูป แต่ถ้าเขาอยากถ่ายทอดจริงๆ เขามักเขียนเป็นหนังสือไปเลย
ที่จริงนักลงทุนไทยเก่งๆ ก็เรียนรู้แนวคิดของนักลงทุนชั้นนำในโลกจากหนังสือนี่แหละครับ ผมกล้าบอกเลยว่านักลงทุนไทยทุกคนที่ประสบความสำเร็จ ล้วนอ่านหนังสือมาเยอะมาก
แต่ปัญหาของหลายๆ คนคือ หนังสือแต่ละเล่มนั้นใช้เวลาอ่านเยอะ แถมทำความเข้าใจยาก อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง กว่าจะอ่านครบแล้วเชื่อมโยงแต่ละเล่มเข้าด้วยกันก็กินเวลานาน (เล่มนึงบางทีอ่านเป็นสัปดาห์ เล่มหนาๆ ก็เป็นเดือน)
แนวคิดบางอย่างก็อยู่ในบริบทของต่างประเทศและเกิดขึ้นมาเมื่อหลายสิบปีก่อน จึงยากที่จะทำความเข้าใจ บิงโกจึงมีคอร์สลงทุนที่ช่วยเรียบเรียงลำดับความคิดเรื่องการลงทุนทั้งหมดให้คุณ ดูรายละเอียดคอร์สด้านล่างได้เลยครับ
เริ่มต้นลงทุนหุ้นต่างประเทศเพื่อโอกาสที่ดีกว่า
ต้นไม่ที่ร่มรื่นย่อมเริ่มจากเมล็ดพันธุ์ที่ดี การลงทุนที่ดีจึงอยู่ในเศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโต มีนวัตกรรม และมี dynamics สูง
แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตช้าลงมาก คนไทยเกิดน้อยลง สังคมกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ใครที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจจะพอรู้ว่า “มืดมน” นักลงทุนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะเซียนหุ้นที่เข้าใจเรื่องนี้ จึงเริ่มเลี่ยงไปลงทุนต่างประเทศกันมากขึ้น
ถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณเองก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แล้วคุณจะพบว่าโอกาสดีๆ มีอยู่มาก ผมมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแล้ว (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าสูงสุด $1000 ด้วย)
สำหรับคนที่คิดว่าการลงทุนหุ้นต่างประเทศไกลตัวเกินไป อยากซื้อกองทุนให้เขาไปลงทุนหุ้นต่างประเทศแทนเรา นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดีมากครับ แต่ก่อนหน้านั้น ผมแนะนำให้อ่าน ซื้อกองทุนต่างประเทศยังไง ให้กำไรมากขึ้น 100% ซึ่งผมเขียนไว้ให้คุณโดยเฉพาะเลยครับ