นึกภาพการลงทุนที่คุณถือไว้ได้ตลอดชีวิต คุณจะกำไรตอนเงินเฟ้อ กำไรตอนเงินฝืด กำไรตอนวิกฤติเศรษฐกิจ กำไรตอนเศรษฐกิจบูม กำไรไม่ว่าจะเป็นเวลาที่รุ่งเรืองหรือตกต่ำ นี่คือแนวคิดของ All Weather Portfolio หรือที่เรียกอีกชื่อว่า All Seasons Portfolio
นี่เป็นรูปแบบการลงทุนที่ “สร้างผลตอบแทนด้วยความเสี่ยงน้อยที่สุด”
ปกติเวลาคุณลงทุน คุณจะเป็นเหยื่อความผันผวนของตลาดหุ้น ต่อให้คุณลงทุนแบบ VI ที่เสี่ยงน้อย ก็ไม่ใช่ว่าจะกำไรทุกปี บางปีคุณก็กำไร บางปีก็ขาดทุน ขึ้นกับตลาดหุ้น เอาแน่เอานอนไม่ได้ All Weather Portfolio จึงเกิดมาเพื่อรักษาให้คุณ “กำไรเกือบทุกปี” ทนทานต่อทุกสภาพตลาด แทบจะไม่มีปีไหนที่ขาดทุนเลย
All Weather Portfolio ถูกคิดค้นโดยคุณเรย์ ดาลิโอ ผู้จัดการกองทุนชั้นนำของโลก กองทุน Bridgewater ของคุณเรย์บริหารทรัพย์สินมากที่สุดในโลก คิดเป็นเงิน 1.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 5 ล้านล้านบาท หรือ 30% ของ GDP ไทย
ที่จริงเรื่องพวกนี้ผมพูดอย่างละเอียดในคอร์สลงทุนบิงโก ที่รวบรวมเทคนิคของนักลงทุนชั้นนำทั่วโลกมาสอนคุณอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ (สอนตั้งแต่พื้นฐานจนลงทุนเก่ง) ซึ่งมีทั้งแนวคิดของเรย์ ดาลิโอ, วอร์เรน บัฟเฟตต์, ปีเตอร์ ลินช์ และนักลงทุนระดับโลกอื่นๆ แทบทุกคน
วันนี้เราจะมาดูกันครับว่า การลงทุนนี้จะเหมาะกับคุณไหม และคุณจะลงทุนได้อย่างไร
All Weather Portfolio เหมาะกับคุณไหม
กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ชอบความผันผวน ไม่อยากขาดทุนเลยแม้แต่ปีเดียว
แต่มีได้ก็ต้องมีเสีย กลยุทธ์การลงทุนนี้คุณจะขาดทุนน้อย ผันผวนต่ำ แต่เวลาคนอื่นเขากำไรกันเยอะๆ คุณจะไม่ได้เท่าเขา ในระยะยาวคุณจึงไม่รวยเท่าคนที่ลงทุนโดยเทน้ำหนักให้หุ้นสูง ซึ่งเสี่ยงมากกว่า
การลงทุนแบบ All Weather Portfolio จึงเหมาะกับคนที่อยากรักษาเงินต้น เน้นเสถียรภาพและความปลอดภัย รวมถึงนักลงทุนหน้าใหม่ที่อยากลองเชิงดูก่อน
คนที่อยากได้ผลตอบแทนสูง ผมแนะนำให้ดูกลยุทธ์การลงทุนหุ้นอื่นๆ และใครอยากได้หุ้นเปลี่ยนชีวิต สามารถไปดูบทความหาหุ้น 10 เด้งหรือ Super Stock ที่ผมเขียนไว้ได้เลย
หรือถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณเองก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศ ผมมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแล้ว (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าสูงสุด $1000 ด้วย)
แนวคิดของ All Weather Portfolio
กุญแจของ All Weather Portfolio อยู่ที่การกระจายความเสี่ยง
ทรัพย์สินมีหลายชนิดในโลก ไม่มีทรัพย์สินชนิดไหนที่จะให้ผลตอบแทนดีทุกปี ทุกภาวะเศรษฐกิจ แต่ว่าทรัพย์สินแต่ละชนิดไม่ได้ขึ้นลงทางเดียวกัน เช่น ราคาหุ้นมักขึ้นลงสวนกับทองคำ พันธบัตรอาจขึ้นลงตามอัตราดอกเบี้ย (หรือที่เรียกว่า Correlation < 0)
พอเราซื้อทรัพย์สินกระจายหลายชนิด ไม่ว่าเศรษฐกิจจะรุ่งหรือร่วง เราจะต้องได้ประโยชน์ด้วยเสมอ เราจึงอยู่รอดได้ในทุกภาวะเศรษฐกิจ พอร์ตเราก็โตต่อเนื่อง และผันผวนน้อยกว่าการลงทุนแนวอื่น
เรย์ ดาลิโอ แบ่งเศรษฐกิจเป็น 4 รูปแบบ เหมือนฤดูกาลทางธรรมชาติ
- เงินเฟ้อ
- เงินฝืด
- เศรษฐกิจดี
- เศรษฐกิจแย่
ในแต่ละช่วง ทรัพย์สินแต่ละชนิดจะให้ผลตอบแทนต่างกัน ดังนี้
คุณจะเห็นได้ชัดเจนว่าในแต่ละสภาพเศรษฐกิจ อะไรให้ผลตอบแทนดีที่สุด
การลงทุน All Weather Portfolio ก็จะหยิบทรัพย์สินทั้งหุ้น พันธบัตร และ Commodity มาผสมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้คุณทนทานทุกสภาพอากาศ
“Commodity” หรือ “สินค้าโภคภัณฑ์” คือสิ่งของที่จับต้องได้ และมีลักษณะเป็นมาตรฐานทั่วโลก เช่น ทองคำหรือน้ำมัน
วิธีจัดพอร์ต All Weather Portfolio
.
.
.
ซื้อหุ้น 30% พันธบัตร 55% และสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) 15% เช่นทองคำ
จบแล้ว
วิธีลงทุนก็ง่ายมากครับ คุณไม่ต้องเลือกหุ้นเองด้วย เวลาซื้อหุ้นให้ซื้อกองทุนที่กระจายซื้อหุ้นหลายตัว แล้วก็จะมีผู้จัดการกองทุนดูแลเงินให้เราเอง
พันธบัตรก็ซื้อกองทุนตราสารหนี้เอา เลือกกองทุนที่คิดค่าบริหารจัดการต่ำหน่อย
Commodity มีทางเลือกหลายทาง เช่น น้ำมัน ข้าว ถั่วเหลือง แต่ผมแนะนำให้ลงทุนทองคำไปเลย 15% จะง่ายกว่ามาก ถ้าคุณไม่ชอบเก็บทองแท่งก็ซื้อกองทุนทองคำได้เหมือนกัน
***สัดส่วนที่ผมยกมา ที่จริงผมปรับให้คุณลงทุนตามได้ง่าย แต่ถ้าคุณชอบของยาก คุณสามารถเอา All Weather Portfolio ฉบับเต็มได้ดังนี้
- หุ้นอเมริกา 30% (มาดูเทคนิคลงทุนหุ้นอเมริกากัน คุณจะได้รับหุ้นฟรีมูลค่าสูงสุด $1000 ด้วย)
- พันธบัตรรัฐบาลอเมริกันอายุ 5-10 ปี 15%
- พันธบัตรรัฐบาลอเมริกันอายุเกิน 10 ปี 40%
- ทองคำ 7.5%
- Commodity ที่ไม่ใช่ทอง 7.5%
แต่คุณไม่ต้องลงทุนยากขนาดนั้นหรอกครับ ผมคิดว่าซื้อหุ้น 30% พันธบัตร 55% และทองคำ 15% ก็พอแล้ว
หรือถ้าใครอยากละเอียดขึ้น อาจเปลี่ยนทองคำ 15% เป็นทองคำ 7.5% + กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 7.5% ก็ไม่เลวครับ
ผลตอบแทนย้อนหลัง
ofdollarsanddata.com ได้ทดสอบวิธีลงทุนแนวนี้เทียบกับแนวอื่น ได้ผลสรุปว่า All Weather Portfolio ไม่ได้ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด แต่พอร์ตจะไม่ผันผวน สวิงไม่แรง จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบให้พอร์ตโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีโดยไม่ขาดทุน
เริ่มต้นลงทุนหุ้นต่างประเทศเพื่อโอกาสที่ดีกว่า
ไหนๆ คุณก็สนใจลงทุนแบบเรย์ ดาลิโอ แล้ว ผมขอสารภาพกับคุณตามตรงว่า ถึงแม้คุณจะอ่านบทความนี้จนจบ และจัดพอร์ตการลงทุนเหมือนที่เขาแนะนำเป๊ะๆ คุณก็จะยังลงทุนเหมือนเรย์ ดาลิโอ ไม่ได้อยู่ดี
สาเหตุก็คือ คุณไม่ได้อยู่ในอเมริกาเหมือนเขา
การที่เรย์ ดาลิโอ แบ่งการลงทุนของเขาไป “ซื้อหุ้น” ได้อย่างมั่นใจนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าหุ้นที่เขาซื้อนั้น คือ “หุ้นอเมริกา”
อเมริกาเป็นประเทศที่พิเศษ ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาต่างๆ นานัปการ แต่ประเทศนี้ก็ฝ่าฟันมาได้ตลอด มีการเจริญเติบโต มีนวัตกรรม และมี dynamics สูง นั่นทำให้เศรษฐกิจอเมริกาแข็งแกร่ง และขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ ในระยะยาว
แต่ไม่ใช่ว่าทุกประเทศหรือทุกคนจะไปซื้อกองทุนหุ้นแล้ววางใจว่าจะขึ้นไปเรื่อยๆ ได้เหมือนหุ้นอเมริกา ประเทศละตินอเมริกาที่เศรษฐกิจมีปัญหา ตลาดหุ้นก็ล่มสลายและไม่ฟื้นกลับมา หุ้นยุโรปเองหลายประเทศก็ไม่ได้ราคาขึ้น กระทั่งหุ้นญี่ปุ่นเองก็ราคาอยู่นิ่งมาเป็นสิบๆ ปี และมีอะไรรับประกันว่าหุ้นไทยจะไม่เป็นเหมือนกัน?
ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตช้าลงมาก คนไทยเกิดน้อยลง สังคมกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ใครที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจจะพอรู้ว่า “มืดมน” นักลงทุนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะเซียนหุ้นที่เข้าใจเรื่องนี้ จึงเริ่มเลี่ยงไปลงทุนต่างประเทศกันมากขึ้น
ถ้าคุณอยากหาโอกาสที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คุณเองก็อาจศึกษาการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แล้วคุณจะพบว่าโอกาสดีๆ มีอยู่มากจริงๆ ผมมีบทความสอนวิธีลงทุนหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศให้คุณแล้ว (คุณจะได้หุ้นฟรีมูลค่าสูงสุด $1000 ด้วย)
สำหรับคนที่คิดว่าการลงทุนหุ้นต่างประเทศไกลตัวเกินไป อยากซื้อกองทุนให้เขาไปลงทุนหุ้นต่างประเทศแทนเรา ผมแนะนำให้อ่าน ซื้อกองทุนต่างประเทศยังไง ให้กำไรมากขึ้น 100% ซึ่งผมเขียนไว้ให้คุณโดยเฉพาะเลยครับ
เรียนคอร์สลงทุน “นักลงทุนมือหนึ่งของโลก”
อยากศึกษาเรื่องการลงทุนแต่เริ่มไม่ถูก?
บิงโกมีคอร์สสอนลงทุนที่จะคุณอาจสนใจ คอร์สนี้จะสอนคุณตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูง มือใหม่เรียนจบก็พร้อมลงทุนจริงได้เลย
คอร์สนี้ถูกออกแบบให้พิเศษกว่าคอร์สลงทุนทั่วไป เพราะมาจากหนังสือลงทุนของเซียนหุ้นระดับโลก ทั้งวอร์เรน บัฟเฟตต์, ปีเตอร์ ลินช์, เบนจามิน เกรแฮม, ดร.นิเวศน์ และอื่นๆ จนเหมือน “นักลงทุนระดับโลกมาสอนคุณเอง” ทุกเล่มที่เราคัดมาคือหนังสือลงทุนที่ดีที่สุด ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็น “ของจริง” และจะร่นเวลาให้คุณลงทุนได้เก่งกาจอย่างรวดเร็ว